Interview | Reizier และ Ryou ตัวแทนประเทศไทย World Cosplay Summit 2021 Video Division

การประกวดคอสเพลย์ระดับนานาชาติ World Cosplay Summit 2021 ของปีนี้ได้จบลงไปแล้วนะคะ แม้จะไม่ใช่การประกวดตามแบบปกติที่จะเป็นการส่งตัวแทนแต่ละประเทศเดินทางไปเข้าร่วมที่ญี่ปุ่นเพราะด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดทั่วโลก การประกวดในปีนี้จึงเปลี่ยนเป็นการส่งคลิปวิดีโอโดยได้มีประเทศต่าง ๆ เข้าร่วม ถึง 30 ประเทศเข้าร่วมชิงชัย ถือเป็นการประกวดที่แปลกใหม่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ได้เห็นผลงานที่แตกต่างในรูปแบบของวิดีโอซึ่งเพื่อน ๆ สามารถอ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่เลยนะคะ โดยวันนี้เลยจะขอนำบทสัมภาษณ์สองตัวแทนประเทศไทยที่เข้าร่วมในปีนี้คุณ Reizier (พี) และ Ryou (บุ๊ค) มาฝากกันค่ะ

Reizier และ Ryou ตัวแทนประเทศไทยประกวดคอสเพลย์ World Cosplay Summit 2021 Video Division
Photo Credit: World Cosplay Summit

ก็จะมาพูดคุยกันตั้งแต่จุดเริ่มต้นการฟอร์มทีม การลงประกวดรอบคัดเลือกรอบภูมิภาคและรอบคัดเลือกตัวแทนประเทศไทยในงาน World Cosplay Summit 2020 รอบชิงชนะเลิศ จนไปถึงเรื่องราว เบื้องหลัง การเตรียมการต่าง ๆ และเรื่องราวปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเป็นตัวแทนไทยในช่วงที่เต็มไปด้วยอุปสรรคกับสถานการณ์โควิด-19 ค่ะ

หวังว่าบทสัมภาษณ์นี้จะเป็นเรื่องราวดี ๆ เป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อน ๆ คอสเพลย์ที่สนใจอยากร่วมประกวดในปีต่อ ๆ ไปนะคะ

Reizier และ Ryou ตัวแทนประเทศไทย World Cosplay Summit 2021 Video Division



01 | อยากให้ทั้งสองแนะนำตัวกับผู้อ่านหน่อยนะคะ

Reizier | สวัสดีครับ “พี”ครับ ชื่อที่ใช้ในการคอสเพลย์ก็ Reizier ตามที่ทุกคนเรียกกันนะครับ สวัสดีครับผม ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนด้วยครับ

Ryou | “บุ๊ค”นะครับ หรือว่า Ryou ครับยินดีที่ได้รู้จักทุกคนเช่นกันครับ




02 | ทั้งสองคนรู้จักคอสเพลย์ได้อย่างไรคะ แล้วทำไมถึงสนใจมาคอสเพลย์คะ ?

Reizier | ของผมค่อนข้างจะนานกว่าของน้องบุ๊คนะครับ ประมาณช่วงก่อนเข้ามหาลัย ช่วงนั้นเราก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่แบบอ่านการ์ตูน อนิเมะ ทำนองนั้น ที่นี้ผมก็มีเพื่อนสมัยมัธยม เขาชอบเที่ยวตามงานอีเว้นท์ต่าง ๆ พวกงานคอสเพลย์ งานการ์ตูน เค้าก็มาคุยกับผมแบบ “เออ สนใจมางานพวกนี้ไหมเพื่อน” แต่เราก็ไม่ได้ไปกับเพื่อนนะ เราลองไปเองดูว่ามันมีงานที่ไหนอะไรยังไง ก็ได้เรียนรู้ว่างานมันเป็นแบบไหน อะไรยังไง ก็รู้สึกว่า เฮ้ย มันมีคนแต่งคอสเพลย์เว้ย ตอนนั้นเรารู้สึกว่ามันเจ๋ง ความรู้สึกแรกของเราคือเขาได้แต่งเป็นตัวการ์ตูนที่เขาชอบ มันเจ๋งดีเนอะ ก็เลยเกิดมีความคิดขึ้นมาว่าถ้าเราอยากลองทำบ้างจะทำได้ไหม 

เราก็ลองคุยกับเพื่อน แล้วก็มีเพื่อนรุ่นน้องของเขาที่แต่งคอสเพลย์อยู่แล้ว สมัยนั้นยังเป็นสมัย MSN ก็ได้มาคุยรู้จักผ่านแชทกัน ที่นี้เราก็เริ่มค่อย ๆ ขยับขาเข้าไปในสังคมคอสเพลย์ เข้าไปทีละนิด ทีละนิด เริ่มไปงานคอสเพลย์บ้าง เริ่มหาชุดมาแต่งเองบ้าง พอเข้ามาเรื่อย ๆ ก็อยู่กับมันไปเรื่อย ๆ

ช่วงหนึ่งมันจะมีงานบ่อย ๆ เราก็แบบเดือนนี้มีงานอะไรบ้างนะ อาทิตย์นี้มีงานอะไรบ้างนะ เหมือนเราสนุก ได้เจอโลกใหม่ ได้เจอเพื่อนใหม่ มันแตกต่างจากตอนที่เราเรียนหนังสือ คือเพื่อนสมัยมัธยมตอนเรียนก็จะเป็นอีกแบบนึง ก็เล่นบอลเล่นบาส แต่พอเป็นคอมมูนิตี้ที่เป็นงานอดิเรกมันเป็นโลกใหม่ที่เราไม่เคยเจอมาก่อน ทุกคนดูเป็นมิตรกัน ดูสนุกกันจังเลย เราก็เลยเข้าไปแล้วก็อยู่กับมัน ได้เจอผู้คนมากขึ้นเรื่อย ๆ เราก็กลมกลืนกับมันจนเข้ามาเป็น 10 กว่าปี อยู่จนถึงตอนนี้ล่ะครับ

Ryou | ผมก็จะคล้าย ๆ ของพี่พีครับ เริ่มมาจากเพื่อนที่พาเข้ามา แต่ของผมตอนแรกสุดจะเริ่มเข้ามาถ่ายภาพก่อนครับ ถือกล้องตัวเก่าที่เรามีตัวนึงถ่ายภาพในงาน จนหลายปีผ่านมาก็รู้สึกว่าสนใจที่ลองแต่งคอสเพลย์ดูบ้าง ก็ลองถามจากคนอื่นบ้าง ให้เพื่อนช่วยบ้างจนก็เรื่อย ๆ มาจนถึงปัจจุบันนี้นะครับ 




03 | ทำไมทั้งสองถึงได้เริ่มสนใจในกิจกรรมประกวดคอสเพลย์คะ ?

Reizier | ผมจำได้ว่ามีโปรเจคหนึ่ง เพื่อนที่เป็นสายชอบประกวดมาชวนผม เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสนใจเข้ามาในการประกวดด้วย น่าจะเป็นของ Thailand Comic Con เป็นโปร One Piece นะครับ น่าจะเป็นเวทีแรกได้ที่ได้ขึ้น คิดว่าใช่หรือเปล่านะ ก็ประกวดเป็นแบบจริงจังแต่ตอนนั้นก็ยังแบบงง ๆ ชวนเหรอ ลองขึ้นไปดูดีไหม ถามว่าเคยมีประสบการณ์ขึ้นเวทีไหมก็เคยแต่ขึ้นไปโชว์ตัวแค่ 2-3 นาทีแบบในงาน Thailand Game Show แต่อันนี้เป็นโปรเจคใหญ่ที่เขาอยากทำ เราก็แบบได้สิ ก็ลองดูลองซ้อมทำอยู่กับกลุ่มเพื่อนเป็นโปรเจค 9 คน ตอนนั้นที่ได้รางวัลมันรู้สึกว่าแบบมันได้รางวัลด้วยล่ะ มันสนุกแฮะ

จากนั้นก็ค่อยเริ่มจุดประกายทำให้อยากประกวดขึ้นมาบ้างแต่ผมไม่ใช่สายที่แบบประกวดบ่อย ๆ  ผมแบบถ้าเรารู้สึกอยากประกวดเราก็ลงประกวด อันนั้นก็เป็นรางวัลแรกในการประกวดก็ได้รับรางวัลกับเพื่อน แล้วก็มีจะมีงาน Thailand Game Show ที่ผมคอส Noctis แล้วได้รางวัล

ทีนี้ผมก็ได้เจอพี่ที่เป็นสายประกวด พี่น็อค (CMYK Cosplay) นะครับ เราได้เจอกันตามงานอยู่แล้ว ก็ได้คุยกันอะไรกัน แล้วก็มีพี่ ๆ ที่เขารู้จักรอบข้างหลายคนเช่นทีม Village Hope ก็ได้เจอ รู้จักเขา เขาก็ถามว่า ไม่ลองลงประกวด World Cosplay Summit อะไรพวกนี้บ้างเหรอ เราก็แบบเหรอ ๆ น่าสนใจเอาไหมพี่ มันก็เริ่มค่อย ๆ มาเรื่อย ๆ แต่ผมก็ไม่ได้อยากลงประกวดทุกเวทีชนะทุกเวที เราก็แค่ว่าถ้าเราอยากประกวดเราก็ลงประกวด แค่นั้นเอง ไม่ได้สนใจว่าเราต้องเอาเงินรางวัลหรืออะไรแบบนี้ อยากลงประกวดก็ลง ไม่ได้แบบต้องไปเวทีนี้เวทีนั้นเพื่อคว้ารางวัลไป ไปต่างจังหวัดฉันก็จะไป ไม่ได้ถึงขนาดนั้น

Ryou | ของผมเริ่มจากปกติทั่วไปก็คือเดินตามงาน เช่นงาน Thailand Game Show หลังจากเริ่มที่คอสเพลย์แล้วก็มีโอกาสได้ไปดูการประกวดที่หน้าเวที ได้เห็นโชว์กับพร๊อพส์สวย ๆ ของหลาย ๆ คน ก็เหมือนเป็นแรงบันดาลใจ ไอเดียของหลาย ๆ คนที่เขาทำ เราก็รู้สึกว่าบางอย่างก็เป็นไอเดียที่น่าใช้ แล้วถ้าเราลองทำดูบ้างจะเป็นยังไงนะ เราอยากให้หลาย ๆ คนได้เห็นอยากให้ได้ Enjoy กับสิ่งที่เราทำโชว์ที่เราทำนะครับ




04 | แล้วสำหรับทั้งสองคน ประสบการณ์กับเวที World Cosplay Summit เป็นอย่างไรบ้างคะ แล้วทำไมถึงสนใจแล้วลงมาลงประกวดในเวทีนี้ ?

Reizier | เราได้รู้จักกับ World Cosplay Summit จากพี่ ๆ หลาย ๆ คนที่เคยไปมา ผมค่อนข้างโชคดีที่ได้รู้จักกับพี่หลาย ๆ คนที่เคยไปมา เป็นทางพี่ ๆ ที่เป็นกลุ่ม Village Hope หรือว่าได้พูดคุยกับพี่เฟย์บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นทาง Village Hope หรือย้อนไปสมัยก่อนที่เราเคยติดตามใน Exteen Blog ช่วงที่คอสเพลย์ไทยเคยได้รางวัลนะ สมัยพี่เซย์ (Seiz) กับพี่ปอ (Pat Cosplay) ตั้งแต่ตอนนู้นเลย ตอนนั้นเลยรู้สึกว่าแบบเจ๋งดี มีการประกวดระดับต่างประเทศที่คนไทยไปแข่งด้วยแฮะ  เจ๋งดี Cool ดี แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้จุดประกายที่จะทำบ้างหรอก

แต่พอเรารู้จักคนที่เคยไปเขาเอาอะไรต่าง ๆ มาให้ดู ได้ดูการแข่งขันของชาติต่าง ๆ ในอดีต ก็เหมือนสะกิดให้เราดู เราเองก็ไปดูตัวเองก็เริ่มดูไม่หยุดแล้ว ของชาตินี้เท่จัง ชาตินี้เทคนิคต่าง ๆ ดีจัง บรรยากาศ บนเวทีต่าง ๆ สิ่งเหล่านั้นที่เราดูผ่านหน้าจอทำให้เกิดความรู้สึกว่าอยากไปตรงนั้นให้ได้สักครั้งหนึ่งจัง เอาจริง ๆ มันคือความรู้สึกที่เราอยากจะประสบความสำเร็จอะไรสักอย่างในงานอดิเรกที่เรารัก เลยรู้สึกว่าลองดูไหม เหมือนเป็น Achievement ตัวเราเองที่ได้ไป ก็เลยลองลงกับพี่น็อคมา 3-4 ครั้งอย่างที่เคยเห็นกัน

Ryou | World Cosplay Summit มันเป็นเวทีการประกวดระดับโลกที่หลาย ๆ ประเทศมารวมกัน เป็นเวทีที่ติดตามมาตั้งนานแล้ว เราก็เห็นหลากหายสไตล์และไอเดียหลายชาติที่เป็นของตัวเอง เราก็อยากลองแสดงไอเดียของเราออกไปเหมือนกัน อันนี้น่าจะสนุกนะ อันนี้น่าจะดีนะ ก็เลยหาโอกาสที่จะเข้าร่วมการประกวด แต่ว่าก่อนหน้านั้นเราก็ต้องสะสมประสบการณ์ไปก่อนเพราะว่าจะอยู่ ๆ ลงเลยมันก็ไม่ได้ เวทีนี้ที่มาร่วมกับพี่พีเป้าหมายหลัก ๆ ก็คือแค่อยากทดลองไอเดียของตัวเอง เราไม่ได้คิดเรื่องว่าเราจะแพ้หรือจะชนะ เรารู้สึกว่าเรามีไอเดียของเรา อยากให้ทุกคนเห็นและเอ็นจอยกับมันในตอนที่ทุกคนได้ดูครับ

Cosplus | ได้ดูคลิปทีมไทยก็เอ็นจอยนะคะ เป็นความรู้สึกว่าเพื่อนทิ้งเราไป เน็ตหลุด แล้วจากเราไปปล่อยเราตายอะไรแบบนี้ (พูดถึงมุกในคลิปประกวด WCS)

Reizier | เป็นไอเดียของน้องเลยครับ น้องเอาไอเดียมาเสนอ น้องเป็นคนเจ้าไอเดียมาก มาเสนอแบบ “แบบนี้ได้ไหม จะดีไหม” ซึ่งเราก็มานั่งคิดว่าไอเดียก็น่าซื้อนะ อย่างผมเวลาประกวดจะออกแนวพระเอกกับผู้ร้ายบู๊สู้กัน แต่อันนี้คือฉีกแนวเลย เราก็รู้สึกก็น่าลองดูนะ พอเป็นวีดีโอเราสามารถโชว์ด้านการแสดงมากกว่าการโชว์ทางเทคนิคทางเวที ก็เลยเออ น่าสนใจนะ เลยซื้อไอเดียน้องตั้งแต่ตอนนั้นเลย

Cosplus | เป็นประสบการณ์ส่วนตัวไหมคะ คุณบุ๊คที่แบบเพื่อนทิ้งเราไป

Ryou | เรียกว่า ผมเป็นคนทำบางทีมากกว่าครับ (หัวเราะ)

Reizier | มันเป็นเหตุการณ์ที่เราเจอได้บ่อยนะครับ เล่นเกมกับเพื่อนส่วนใหญ่ก็มีปัญหากับเพื่อนแบบนี้บ่อยแบบ “เฮ้ย โทษทีอ่อ หลุด“ เราก็แบบ อ้า โอเค …

Ryou | เราพยายามจะทำให้เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใกล้ตัวกับคนดูมากยิ่งขึ้นนะครับ

Reizier | คือทุกคนดูรีเลท มีส่วนร่วมกับมัน คนก็จะรู้สึกแบบเป็นอย่างนี้เลยนะ

Reizier และ Ryou ตัวแทนประเทศไทยประกวดคอสเพลย์ World Cosplay Summit 2021 Video Division



05 | ทั้งสองคนมารู้จักกันได้ยังไงแล้วทำไมถึงมาลง World Cosplay Summit ด้วยกัน ?

Ryou | ก็รู้จักพี่พีตั้งแต่ช่วงมหาลัย อยู่มหาลัยเดียวกันครับ

Reizier | ผมกับบุ๊คอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ช่วงตอนอยู่มหาลัยผมจะเข้าชมรมที่มีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นซึ่งมันก็รวมไปถึงพวก อนิเมะ การ์ตูน คอสเพลย์ แล้วมันมีมีตติ้งชมรม ก็ได้เจอบุ๊คเขาเข้ามาที่ชมรม พอได้เจอตรงนั้นก่อนสักพักนึง ก็พอรู้ว่าน้องคนนี้อยู่มหาลัยเดียวกันนะก็ไปเจอกันข้างนอกอีกบ้างเช่นในงานคอสเพลย์หรืองานอื่น ๆ ที่จะเจอกันข้างนอก เราก็เหมือนรู้แล้วว่าเขาเป็นเพื่อนของรุ่นน้องนะ เป็นเพื่อนของคนที่เรารู้จักอยู่แล้ว ก็ได้เจอกันบ่อยขึ้นเพราะว่าอยู่ชมรมเดียวกัน ได้เจอกันบ่อย ๆ รู้จักกัน

Ryou | ในช่วงการคัดเลือกประกวดคอสเพลย์ WCS ก็มีบางจังหวะที่เปิดรับสมัครอยู่ ผมก็สนใจที่อยากจะลองดู อยากลองหาประสบการณ์ก็เลยลองคุยกับพี่ ๆ ที่ Village Hope ครับ พี่ ๆ เขาก็แนะนำว่าพี่พียังว่างอยู่นะลองชวนด้วยกันไหม แล้วก็จังหวะบังเอิญที่ต่างคนต่างจังหวะพร้อมกันพอดี ก็คุยกันว่าลงไหมครับ มีไอเดียอะไรไหมที่อยากจะลงบนเวที ซึ่งบางอย่างเราก็เคยคุยในระหว่างที่เราเคยเจอกันแล้วเคยคุยกันบ้างว่าถ้ามีโอกาสได้ลงด้วยกันบางเรื่องเราก็น่าจะหยิบมาเล่นนะ พอมีโอกาสพร้อมกันก็เลยได้จังหวะลงด้วยกันเลยครับ (หัวเราะ)

Reizier | ต้องบอกว่าตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านั้น ช่วงปีที่แล้วที่ผมได้รางวัลที่ 2 ในรอบคัดเลือกตัวแทนไทยรอบสุดท้าย เราก็นั่งคิดกับตัวเอง รู้สึกว่าแบบ “หรือว่าเราคงสุดแค่ตรงนี้ ฉันคงมาได้แค่นี้แหละ” เลยคิดว่าเราน่าจะพักสักปีนึงไหม เพราะว่าเดิมทีตั้งแต่แข่งมาโดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมาผมจะแข่งคู่กับพี่น็อคด้วยกันตลอด ที่นี้ปีนี้ในรอบกรุงเทพฯเขาลงกับเพื่อนเขาล่ะ เราก็เลยแบบ โอเคเราพักก่อนดีไหม แล้วมันประจวบเหมาะกับจังหวะสถานการณ์โควิด-19 ที่มันไม่สู้ดีอยู่แล้ว คือช่วงต้นปี 2019 เป็นรอบที่กรุงเทพฯ แล้วหลังจากนั้นเหมือนทุกอย่างมันก็โดนเลื่อนหายไปหมด ก็เลยรู้สึกว่าคงจะอีกนานนะ ก็ถือซะว่าพักไปละกันปีนี้

ได้รองชนะเลิศอันดับ 1 คู่กับ CMYK
World Cosplay Summit รอบคัดเลือกตัวแทนปี 2019

ทุกอย่างก็เงียบไปจนกระทั่งอยู่ดี ๆ ก็กลับมาจัดต่อตอนปลายปี ผมก็แบบปล่อยเกียร์ว่างให้ตัวเองอยู่ก็สบายจังนะ โล่งดี จนกระทั่งน้องเขาติดต่อมาว่าพี่สนใจจะลงไหมพี่รอบคัดเลือกที่เชียงใหม่ ผมก็แบบ “เอาไงดีน้า” จังหวะนั้นคือเราจะตัดสินใจตัวเองว่าจะพักอยู่แล้ว แล้วอยู่ดี ๆ ก็แบบ “พี่ สนใจป่ะ” 

คือระหว่างนั้นมันเคยมีการคุยมาก่อนกันอยู่แล้วระดับหนึ่ง ด้วยความที่ก็รู้จักกันอยู่แล้ว ก็เคยคุยแบบเผื่อลงไปประกวดด้วยกันนะ น้องเขาก็อยากได้ประสบการณ์แข่งประกวดบนเวทีต่าง ๆ บ้างก็ไม่เสียหายอะไร แต่ที่นี้คือพอเป็น WCS เลยเราก็ชั่งจิตชั่งใจอยู่ว่าจะเอาไงดี แล้วพอคิดเสร็จก็เอาก็ได้วะ ลงก็ลง เลยตอบตกลงกับน้องไป ก็ต้องบอกว่าน้องเป็นคนชวน




06 | แล้วหลังจากที่ชวนแล้วตกลงลงประกวดด้วยกันนั้น เวลามันกระชั้นชิดในการคิดโชว์สำหรับรอบคัดเลือกไหมคะ แล้วคิดโชว์ออกมาได้ยังไง ?

Reizier | ด้วยความที่ว่าทุกอย่างมันกระชั้นคือมีเวลาเหลือประมาณ 2-3 สัปดาห์ ด้วยความที่เราเคยคุยกันมันมีไอเดียนี่ ๆ อยู่นะ ก็คุยกันว่าเราเอาไอเดียนั้นมาลงไหม เรื่องต่าง ๆ ที่เคยคุยกันไว้ เรื่องชุดเรามีทำไว้บ้าง คือมันไม่ได้เริ่มจากศูนย์ซะทีเดียว มันเริ่มมาจากสิ่งที่เราจะพอมีอยู่บ้างก็เลยไม่ได้ทำใหม่ทั้งหมด ยังพอจะทันเตรียมตัวตรงนั้นตรงนี้ เรื่องเตรียมตัวอุปกรณ์หรือชุดไม่ได้หนักหน่วงเท่าไหร่แต่มาหนักหน่วงตรงที่เราจะโชว์หรือแสดงยังไงมากกว่า ก็คุยกันว่าเอาแบบนี้ไหมเอา ด้วยความที่เวลามันงวดมากก็คือถ้าเลือกเรื่องอื่นมันต้องไม่ได้แน่นอนมันต้องเรื่องนี้แหละ คือเราก็มีของใช่ไหมน้องก็มีของใช่ไหม งั้นเอาแบบนี้มันเป๊ะพอดี ลองดูไหมแล้วก็ค่อย ๆ ตกผลึกเนื้อเรื่องกันว่าจะเอาประมาณไหน 

ช่วงรอบคัดเลือกที่เชียงใหม่ก็รู้แหละว่ามันยังไม่ได้สมบูรณ์มากแต่ก็คิดว่าน่าจะเพียงพอ เราก็นั่งรถทัวร์ขึ้นเชียงใหม่ไปเลย อย่างน้อยให้ผ่านรอบคัดเลือกก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที เราค่อยเกลาเพิ่ม เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าที่เพียงพอสำหรับรอบคัดเลือกที่เชียงใหม่เนี่ยมันไม่เพียงพอสำหรับรอบคัดเลือกสุดท้ายอยู่แล้ว

ในรอบเชียงใหม่ก็คิดว่าน่าจะมีแบบเจ้าถิ่นเชียงใหม่ลงอยู่บ้างแต่ปรากฏว่ามีอยู่แค่ 2 ทีม ผมก็งง 2 ทีมเองเหรอ ก็เลยได้ผ่านในรอบคัดเลือก

รอบคัดเลือกภาคเหนือ: เชียงใหม่

Cosplus | คุณบุ๊คมีอะไรเสริมไหมคะว่าแบบมีตรงไหนที่ต้องเร่งไฟลุกไหม

Ryou | รู้สึกจะเป็นเรื่องบทกับคิวแสดงนะครับ เพราะว่าเราพยายามทำให้มันดูเข้าใจง่ายแล้วก็แสดงให้มันโอเคขึ้น ก็ต้องบอกว่าตอนรอบเชียงใหม่ทำออกมาได้ไม่ได้ดีมาก ไม่เหมือนอย่างที่คิด หลังจากนั้นเราก็ลองมาซ้อม มาทำเตรียมการแสดงให้มันแน่นขึ้นกว่าเดิมจนออกมาเป็นของรอบสุดท้าย 

Reizier | รอบที่เชียงใหม่ มองหน้ากันแล้วก็แบบมันยังไม่ดีว่ะ น้องก็แบบใช่พี่ เราก็แบบใช่ แต่ในรอบชิงมันต้องโอเค ผ่านจากจุดนั้นไปแล้วก็ไปพัฒนากันต่อทั้งเรื่องคิวเรื่องบทเรื่องในการปรับอะไรนั่นนี่ให้โชว์มันสมูทขึ้น ต้องซ้อม ต้องเพิ่มบางอย่างก็ต้องเผาเพิ่มนิดนึง

รอบคัดเลือกตัวแทนรอบสุดท้ายผมว่ามันเราโอเคขึ้นครับ คือมันมีการปรับ เรารู้แล้วล่ะว่าจุดบกพร่องตั้งแต่รอบเชียงใหม่ว่าบกพร่องตรงไหน เราต้องการทำอะไรเพิ่มก็ไปปรับปรุงกันต่อ พัฒนาต่อในเรื่องของการซ้อมให้เป็นไปได้อย่างที่เราคิด มันก็อย่างที่เห็นบนเวทีในรอบชิงนะครับ 

Reizier และ Ryou ตัวแทนประเทศไทยประกวดคอสเพลย์ World Cosplay Summit 2021 Video Division
รอบคัดเลือกตัวแทนประเทศไทย



07 | ตื่นเต้นไหมคะเวลาขึ้นเวทีในแต่ละรอบ ไม่ว่าจะเป็นรอบภูมิภาคที่เชียงใหม่จนมาถึงรอบคัดเลือกสุดท้าย

Reizier | อารมณ์เหมือนแบบประสาทกินก่อนขึ้นเวทีครับ อย่างบางคน ฉันซ้อมมาอย่างดี ฉันพร้อม ฉันไม่มีอาการตื่นตระหนกเลยใด ๆ ก็สำหรับบางคนที่เป็นแบบนั้นก็ยินดีด้วย แต่สำหรับผมมันแบบอารมณ์พานิคเล็กน้อยแต่เราก็ไม่ได้แสดงออกภายนอกอะไรเท่าไหร่ ภายนอกเราจะดูสงบมาก คีพคูลมากแต่ข้างในนี่แบบลุกลี้ลุกลนล่ะ ไม่ไหวแล้ว แต่ว่าก็มีอาการคล้าย ๆ สั่นสู้ด้วยแบบ มา! จังหวะนั้นต้องไปบนเวทีแล้วก็ไปกันเลยพวก! เราพร้อมที่จะโชว์แล้ว




08 | รู้สึกยังไงบ้างคะทันทีที่ประกาศผลว่าเราได้เป็นตัวแทนประเทศไทย WCS ในครั้งนี้

Reizier | มัน … จะเล่ายังไงดี (หัวเราะ)

Ryou | ถามว่าดีใจไหมก็ดีใจครับ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดเหมือนกันว่าจะได้ เราคิดแค่ว่าสิ่งที่เราทำไปมันเต็มที่ของเราแล้ว ตอนแสดงเสร็จก็คือคิดอะไรไม่ออกละครับ

Reizier | มันว่าง ๆ โหวง ๆ  … มันไม่เชิงว่าสมองว่างเปล่าไปเลยนะ มันอารมณ์ว่าพอทำตรงนั้นเสร็จด้วยความที่เราก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องได้ไป ไม่ได้คิดว่าปีนี้ต้องเป็นปีของฉัน ฉันต้องได้ไป มันไม่ใช่แบบนั้นนะครับ

เราเอาให้ดีที่สุดบนตรงนั้น ณ บนเวทีนั้นนะ และเราก็ทำมันลงไป ด้วยเราก็เห็นทีมอื่นที่มาในรอบชิงเราก็แบบ โอ้โห จะได้ไปจริงเหรอ ก็คงไม่ใช่ละมั้ง

แล้วทีนี้ตอนที่เราได้ก็แบบ “หา! จริง ๆ เหรอ” คือตอนประกาศผล ณ ตอนนั้น ภาพจำจากการประกวดครั้งก่อนมันยังอยู่ ภาพมันยังหลอนอยู่เลยตอนที่ได้ที่ 2 กับพี่น๊อค จังหวะที่ประกาศที่ 3 ไปแล้ว เราก็เตรียมใจไว้ว่าเราน่าจะได้ที่ 2 คงทรงเดิม ปรากฏว่าที่ 2 ไม่ใช่เราก็แบบ “เดี๋ยวแล้วใครจะได้ที่ 1 เนี่ย” คือผมเก็งแหละว่าที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 จะประมาณไหนแต่เดี๋ยวนะ ถ้าแบบนี้ทีมไหนจะได้ที่ 1 ละ พอประกาศว่าเป็นทีมเรา ก็รู้สึกว่าแบบ อ้าว คือมันบรรยายออกมายากมาก จะดีใจก็คือดีใจ งงก็คืองง หลายอารมณ์ปนกันมาก เราก็เงยหน้ามองฟ้าแบบอะไรเนี่ย แล้วเราก็หันหน้าไปมองน้องกอดน้องหนึ่งทีเขย่าน้องสองสามทีแล้วเราก็แบบ “เฮ้ย! ได้เว้ยเพื่อน” คิดว่าทั้งผมทั้งน้องก็คงช็อค ๆ งง ๆ ประมาณนี้นะครับ

Ryou | ในรอบชิงทุกคนใส่กันเต็มที่จริง ๆ ไอเดีย คิวการแสดง อะไรต่าง ๆ ดี เต็มที่กันจริง ๆ ก็เลยไม่แปลกใจถ้าทีมไหนจะได้ ทุกคนทำกันได้ดีจริง ๆ

Reizier | บนเวทีตรงนั้นทุกคนทุกทีมสมควรที่จะได้เป็นตัวแทนปีนั้นจริง ๆ ไม่แปลกใจถ้าทีมใดทีมหนึ่งในวันนั้นจะได้




09 | แล้วรู้สึกยังไงบ้างคะ ตอนที่ได้รู้ว่า WCS รอบสุดท้ายที่ญี่ปุ่นกลายเป็นแข่งรอบออนไลน์

Reizier | เราก็มองหน้ากันอยู่แล้วว่ามันน่าจะเป็นประกวดออนไลน์นะ ก็คือได้คุยกับทางออกาไนซ์ว่าถ้าทุกอย่างมันโอเค ถ้าทางญี่ปุ่นเขาโอเค ก็น่าจะได้ไปนะ แต่ว่าถ้าที่นู่นไม่ได้จัดมันก็จะเป็นรอบออนไลน์ เราก็มองหน้ากัน ตอนแรกคือแบบ เราจะเลือกประกวดยังไง ถ้ามีช้อยส์ให้เลือกถามว่าจะประกวดออนไลน์หรือไปญี่ปุ่น พวกผมสองคนตอบกันอย่างไม่ลังเลจะไปญี่ปุ่น(โว้ย) จะไปแข่งที่ญี่ปุ่นเพราะเราอยากไปอะ !

Ryou | มันมีความรู้สึกว่าเวทีที่ญี่ปุ่นมันเป็นเวทีต้นตำรับของคอสเพลย์นะครับ เราก็อยากที่จะไปแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าคอสเพลย์ของเราเป็นยังไง ไอเดียของเราเป็นยังไง

Reizier | เราอยากไปแสดงศักยภาพ เหมือนเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่เราจะได้แบบไปโชว์ผลงานของเราบนเวทีที่ญี่ปุ่นที่มันเหมือนเป็นต้นกำเนิดนะครับ เราเลยรู้สึกว่า “ไอ้เห้ แม่ง ออนไลน์เหรอวะ” ตอนนั้นคือสบถจริง ๆ นะครับ

Ryou | ยอมรับว่าผิดหวังที่ไม่ได้ไปครับ ปัญหาต่อมาคือจะทำวีดีโอยังไง ก็พอรับทราบกฎมาว่าวีดีโอสามารถตัดต่อได้ เราก็มานั่งคิดว่าในเมื่อเป็นวีดีโอแบบนี้มันจะไม่เหมือนกับการแสดงบนเวทีแล้ว แล้วเราทำอะไรกับมันได้บ้าง มีไอเดียอะไรที่เราเอามาใช้ได้ไหม เราจะยังแสดงเรื่องเดิมไหมหรือว่าลองเปลี่ยนสไตล์ออกไปเลยดู ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงของโควิด-19 เราก็คิดว่าทำอะไรให้มันเข้าใจง่าย คนดูสนุกไปกับมันได้ง่ายจะดีกว่าไหม มากกว่าที่จะทำอะไรให้มันเคร่งเครียดนะครับ มีมุกตลกไทย ๆ มุกตลกญี่ปุ่นอันไหนที่เราเอามาใช้ได้บ้างประมาณนี้นะครับ

Reizier | พอทุกอย่างมันสรุปว่าเราต้องแข่งแบบออนไลน์ คือก่อนหน้านี้เราก็ได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่ที่เขาประกวดมาก่อน ประมาณว่า เป็นแบบนี้นะอย่างนี้นะโอเคนะ บนเวทีเราดีนะ ตรงนี้บกพร่องนะ เหมือนติวให้แต่พอมันเป็นในส่วนของวีดีโอเนี่ย ทุกอย่างมันไม่ใช่อย่างที่เราตั้งใจอยากให้เป็น มันคือรูปแบบใหม่แล้วทีนี้ล่ะจะเอายังไงล่ะ

ก็มานั่งคิดว่าใช้เนื้อเรื่องเดิมเหรอก็ไม่ใช่นะ ตัดสินใจว่าเป็นเรื่องใหม่อะไรใหม่ นั่งตบตีกันนั่งคุยกันออกไอเดียกัน จะเอาแบบนี้ไหมหรือจะเอาแบบนั้นไหม ด้วยความที่ว่าตอนนั้น กฎ กติกา อะไรหลาย ๆ อย่างมันแบบ เอ๊ะ มันใช่กฎที่ต้องใช้จริงไหมหรือว่าอันนี้กฎใหม่เพิ่มมาหรือเปล่า กฎใหม่กับกฎเดิมก็ยังตีกันอยู่ เราก็พยายามดูว่าใช่แหละ ตามกฎนี้แหละ

ทีนี้เนื้อเรื่อง บท ก็คุยกันมาสักพัก น้องก็มีไอเดียว่าไม่อยากให้มันดูเครียดจนเกินไป อยากให้มันสนุกเราก็แบบ “เอ้อ จะได้ไม่เครียดนะ” คนดูก็น่าจะสนุกอะไร หรืออย่างน้อยถ้าเขาดูแล้วเขาชอบ เขายิ้มมุมปากเขาแฮปปี้ก็โอเคนี่ ก็เลยซื้อความคิดน้อง ก็มาแล้วสรุปแบบว่าเอาแบบนี้แล้วกัน

ทีนี้ก็จะเอาแบบไหนยังไงก็ค่อย ๆ ตบ เอามุกประมาณไหน มานั่งคัดว่าถ้าใช้มุกนี้คนจะเก็ตหรือเปล่า จะเก็ตไหมก็ค่อย ๆ ใส่ค่อย ๆ ค่อย ๆ ตบมาจนออกมามันเป็นเรื่องอย่างที่เห็นกันนะครับ




10 | ปีนี้กติกาเป็นอย่างไรบ้างนะคะ อยากให้เล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่ามันมีอะไรใหม่ ๆ สำหรับประกวดออนไลน์เข้ามาบ้าง

Reizier | ปกติถ้าเป็นบนเวทีมันจะมีพร๊อพส์ทุกอย่างบนเวทีเป็นของเรา ก็จะมีพูดถึงน้ำหนักชุด น้ำหนักพร๊อพส์ น้ำหนักรวมบนเวที คือฟรีฟอร์ม ไม่ต้องแคร์อยากทำอะไรทำเลย หรือเรื่องของทีมถ้าเป็นบนเวทีมันจะมีแค่เรากับคู่หูแค่คนสองคนบนเวทีเท่านั้น แต่นี่คือมีตัวประกอบในฉากได้นะ มีสต๊าฟคอยช่วยได้นะ สามารถเข้ามาอยู่ในฉากเป็นตัวประกอบ แล้วก็แบบต้องมีพวกเราอยู่ในซีนกี่นาทีหรือเราหายไปจากซีนห้ามเกินกี่วินาทีอะไรประมาณนี้ เป็นอีกรูปแบบหนึ่งด้วยกติกาที่เขาคิดมาแล้วให้ออกมาเป็นรูปแบบวีดีโอ 

ที่ผมตกใจอีกอย่างหนึ่งก็คือเขาให้ลง Shonen Jump ได้แล้ว จะเรียกว่าอนุญาตได้ไหมนะ ? ตอนแรกผมก็ไม่แน่ใจว่ามันได้หรือเปล่า มันลงได้จริง ๆ เหรอจนกระทั่งเราได้เห็น Dragon Ball Z ได้เห็น Gintama ก็อ้าว นี่ก็ต้องได้สิ คือตอนนั้นเรามัวแต่งวดอยู่ว่าเราจะทำอะไรแต่เราไม่เห็นว่าเอาลงได้นี่ อย่างที่เราดูก็จะมี Dragon Ball Z ของอินโดนีเซียแล้วก็ Gintama ของอินเดียเขาก็ได้รางวัลนั่นก็ Shonen Jump เราก็ อ้าว ได้หรอกเหรอ ด้วยความที่ว่าเราทุกคนต้องทำอะไรแต่ละอย่าง อย่างน้อยก็เพลย์เซฟที่สุด ไม่อยากให้ผิดกติกา คือเราก็กังวลกับเรื่องนั้น

Ryou | เรื่องกฎกติกา ถือเป็นเรื่องใหม่ที่เราไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งมันต่างกับการแสดงบนเวที มันเป็นการแสดงวิดีโอ มันมีเรื่องใหม่ ๆ เยอะมากเลยที่ต้องเรียนรู้ ณ ตอนนั้น แต่ว่าถ้ามีโอกาสก็ยังอยากจะลองทำวีดีโออยู่นะครับ คิดว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจที่หลากหลายคนน่าจะสนุกไปกับมันด้วย สำหรับคนที่อาจจะไม่ชอบการแสดงบนเวที

Reizier | มันเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการแข่งขันด้วยนะครับ เรารู้สึกว่าวีดีโอมันสามารถส่งหรือทำให้คนดูเข้าใจถึงสิ่งที่เราต้องการจะแสดงได้ง่ายกว่าการแสดงบนเวที ทั้งในเรื่องมุมกล้อง เอฟเฟค อะไรต่าง ๆ สามารถโชว์ให้เห็นได้ง่ายกว่าแล้วคนดูก็จะเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ

แล้วมันสามารถที่จะเห็นในมุมที่ไม่ใช่แค่เราเห็นด้วยตาที่มันเป็นแค่ 2 มิติแบบบนเวทีแต่นี่คือมันรอบด้าน เพราะมันเป็นมุมกล้องที่รอบด้าน ทำให้คนดูสามารถเห็นในทุก ๆ มุมของการแสดงได้ เป็นอีกรูปแบบที่มันเจ๋งดี เป็นอะไรที่มันก็แบบก็ดี มันน่าทำ คือมันไม่ใช่ว่าเป็นวีดีโอแล้วก็ไม่น่าทำ คือมันก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่คิดว่าน่าสนุกที่เราได้ทำ




11 | แล้วพอต้องทำเป็นวิดีโอมันมีอุปสรรคปัญหาอะไรบ้างเกิดขึ้นบ้างไหม แล้วอะไรที่เป็นอุปสรรคที่สุดคะ ?

Ryou | ด้วยความเป็นวีดีโอ มันเป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมุมกล้อง บทวีดีโอหรือว่าภาพ มันก็มีทั้งเรื่องของเอฟเฟค เสียงซาวด์ต่าง ๆ ก็คิดว่าที่น่าจะเป็นปัญหามากที่สุดจะเป็นเรื่องของเอฟเฟคที่เราไม่เคยแตะอะไรพวกนี้ที่เป็นวีดีโอมาก่อน ทำให้ต้องมาเรียนรู้ใหม่ มาศึกษาเพิ่มตรงนี้นะครับ

Reizier | คือเราก็ไม่รู้ว่าเราจะตัดต่อแบบ CG อลังการหรือว่ามีมุมกล้องที่สวยงามอะไรอย่างนี้ยังไง พอมาถึงตรงนั้นก็รู้สึกว่าจากที่เราเคยชินกับการแสดงบนเวทีแล้วมาต้องเจออะไรแบบนี้ก็จะทำยังไงดี จะแสดงยังไงดี คือมันเจ๋งตรงที่ว่าเราสามารถทำให้คนดูได้เห็นมุมกล้องที่รอบด้านได้ใช่ไหมครับ แต่ปัญหาคือเราจะทำยังไงล่ะ ก็เป็นเรื่องที่ต้องนั่งคิด พูดคุยกันว่าจะทำยังไงกันดี ซึ่งเราก็รู้ว่ามันอาจจะไม่ได้ออกมาดีมาก แต่ก็คิดว่ามันก็น่าจะโอเค ณ เวลานั้นที่เราพอใจกับผลงานที่มันออกมา 




12 | ตอนที่ได้รู้ว่าทีมไทยเป็นทีมแรกของกรุ๊ปแรกด้วย รู้สึกยังไงคะ ?

Reizier | ยังเล่นมุกกันตอนแรก ๆ แบบ Thailand Number 1 !

Ryou | ก็กดดันครับเพราะว่าพอเป็นคนแรกสุดที่ต้องเป็นตัวเปิดวีดีโอนั้นเลย ถ้าเราทำออกมาไม่ดีมันจะออกมาเป็นยังไง ก็มีความเครียดพอสมควรกับเรื่องนี้นะครับ

Cosplus | ได้รู้ตอนไหนคะ ?

Reizier | ต้องบอกว่าเห็นประกาศของทาง Official นะครับ ก็เห็นว่ากรุ๊ป A ทีมแรก ผมก็แบบทีมก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมกัน … คือการเป็นทีมแรกมันเหมือนเป็นการ Set Standard ให้กับทีมอื่น ๆ มันเหมือนกับว่า Standard ของวิดีโออันแรกนะมันเป็นแบบนี้นะ แบบนั้นนะ มันเหมือนจะเป็นทีมที่โดนเปรียบเทียบง่ายที่สุด ซึ่งมันก็ค่อนข้างจะกดดัน รู้สึกเครียดกับมันมาก ทำไมต้องเป็นทีมแรก แต่ก็โอเค ทีมแรกก็ได้ ค่อนข้างจะกดดันกับการเป็นวีดีโอแรกของ World Cosplay Summit ปีนี้ เครียด ๆ เขิน ๆ

Cosplus | แล้วเรารับมือความกดดันยังไงคะ

Reizier | มันเหมือนกับมันเป็นความเครียดที่เรารับรู้จากมันว่า นายต้องเป็นทีมแรกที่ต้องโชว์ผลงานวีดีโอนะ ก็แบบทีมแรกก็ทีมแรก พยายามรับแรงกระแทกจากสิ่งนี้ให้มันโอเคมากกว่าเพราะเราก็ไม่สามารถจะมาขอ Official มาเปลี่ยนเป็นทีมหลัง ๆ ได้ไหม มันก็ไม่ได้ ต้องยอมรับกับมันก่อนว่าเป็นทีมแรก จริง ๆ แล้ววีดีโอที่เราทำออกมาถ้ามันโอเคจะอยู่อันดับทีมแรกหรือทีมที่เท่าไหร่มันก็ไม่เกี่ยว เพียงแต่ว่ามันแค่เครียดบวกเขินเพราะเราไม่รู้ว่าชาติอื่นเขาจะมาแบบไหน

Ryou | ก็การจัดอันดับโดย WCS ครับ อยากแรกคือเราทำอะไรกับมันไม่ได้อยู่แล้ว สิ่งที่เราทำได้ก็คือพักผ่อนให้เพียงพอแล้วก็ใส่ทุกอย่างลงไปในงานเท่าที่เราจะทำได้ในตอนนั้นนะครับ เราทำทุกอย่างที่พอแล้วครบแล้ว เราก็รู้สึกว่าไม่ว่าจะอันดับที่เท่าไหร่มันก็ยังเป็นผลงานที่เราตั้งใจทำออกมาอยู่ดีครับ

Reizier | อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิดนะครับ ณ ตอนนั้น




13 | เรามีการทำงานร่วมกันยังไงและแบ่งหน้าที่กันอย่างไรยังไง ใครถนัดอะไรบ้างคะ ?

Reizier | ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่วุ่นวายครับ มันมีการเตรียมการเยอะเหมือนกัน ทั้งเรื่องใครจะมาถ่าย ใครจะมาทำอะไรต่าง ๆ ให้เรา เรื่องการเตรียมการต่าง ๆ คือด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไปไหนมาไหนยากมากแล้วมีช่วงที่วงเวียนใหญ่ก็ปิด พาหุรัดก็ปิด สถานที่ต่าง ๆ ปิด การเดินทางก็ยาก เดินทางข้ามจังหวัดก็ลำบาก เราก็ไม่รู้ว่าเราจะติดโควิดไหม คือมันมีความกังวลเต็มไปหมด หลายคนก็ work from home หลาย ๆ อย่างที่พอจะทำได้ บุ๊คก็แบบ เดี๋ยวบุ๊คจะทำตรงนี้ในส่วนของบุ๊คนะ คือบุ๊คเหมือนแบบเด็กที่มี Energy เยอะมาก น้องแบบ “โอเคครับ เดี๋ยวผมจะดูตรงนี้นะครับพี่ พี่มีอะไรให้ผมช่วย พี่บอกผมได้เลยครับผม” 

คือผมไม่ได้อยู่ในจุดที่สามารถจะทำอะไรได้อย่างคล่องตัวได้ง่าย ๆ เพราะว่ามีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ต้องจัดการ ก็พยายามจัดการในส่วนของตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะจัดการได้หรืออะไรบางอย่างที่เราพอจะไปช่วยน้องได้บ้าง เช่น ผมอยู่ที่ใกล้น้อง บางทีน้องขาดของก็จะแบบ “พี่ครับ ถ้าเกิดที่แวะเข้ามาพี่ช่วยทำอะไรอย่างนี้ รบกวนฝากซื้อของอันนี้อันนั้นจัดให้หน่อยได้ไหมครับ” ผมก็จะเป็นฝ่ายเอาของไปให้เขาบางทีนะครับ

ด้วยหน้าที่ที่แบ่งมันไม่ได้ตายตัวว่าฉันจะต้องทำอย่างนั้นเธอต้องทำอย่างนี้ อะไรที่ทำได้ทั้งคู่ก็ทำกันไปเลย คือทุกคนก็ทำพร๊อพส์ได้ ทำชุดได้ ก็ทำกันไปทั้งคู่นะครับ สมมุติว่าเป็นชุดของตัวเองก็จะมีการขึ้นกันเองกันหมดครับ

Ryou | หลัก ๆ ก็คือทำในส่วนที่เราทำได้เลยนะครับ อันไหนที่ทำไม่ได้ก็บอกกันว่าติดขัดยังไงตรงไหนบ้าง ยังไงบ้าง ก็ช่วยเหลือกันประมาณนั้นนะครับ

Reizier | อย่างบุ๊ค เขาจะอยู่ในที่ที่เขาทำได้สะดวกอยู่แล้ว

Ryou | ใช่ครับ เรียกว่าสามารถทำงานได้ในระยะเวลาติดต่อกัน มีเวลาว่างพอที่จะทำในส่วนของอันนี้เป็นหลักครับ

Reizier | อย่างของผมเนี่ยต้องไป ๆ มา ๆ อะไรที่พอจะทำในที่ของตัวเองได้ถึงจะเล็ก ๆ น้อย ๆ ถือว่าได้ทำก็ยังดีนะแต่ว่ามันก็ไม่สามารถทำได้ตลอดเพราะว่าเราก็มีงานต้องทำ มีอย่างอื่นต้องทำ อาจจะไม่ได้ต่อเนื่องมากแต่ก็พยายามทำจนลุล่วงไป ก็มีหลายอย่างที่ต้องทำต่อ บางทีก็ทำเสร็จปั๊บก็ต้องเดินทาง พอทำต่อก็ติดงาน บางทีอยากจะออกไปหาของก็ไปหาไม่ได้ อุปสรรคค่อนข้างเยอะพอสมควรเลยทีเดียวก็จะหนักหน่วงนะครับกับการหาของในช่วงนั้น




14 | แล้วมีอะไรไหมคะที่เรารู้สึกเซอร์ไพรซ์ว่าอีกฝ่ายมีสกิลหรือความสามารถแบบนี้ด้วย ?

Reizier | ของผม สำหรับบุ๊คคือความคิดสร้างสรรค์ครับ น้องมีความคิดสร้างสรรค์เยอะมาก คือผมค่อนข้างจะเป็นคนที่มีไอเดียในด้านนี้ไม่ค่อยจะเยอะ สังเกตได้จากเวทีประกวด 3 ปี WCS ของผมจะเป็นแนวบู๊แหลกหลาญอย่างเดียว พอน้องบอกว่าทำแบบนี้สิพี่ เราก็แบบแล้วมันจะทำยังไง น้องก็บอกก็ทำนี่ ๆ นี่ไงพี่ แบบนี้สิพี่ คือเราก็ยึดติดกับความบู๊มาตลอด แล้วพอมาแนวฮาก็แบบ เฮ้ย! โอเคนี่ซึ่งเราชอบความคิดน้อง น้องจะมีไอเดียแปลก ๆ ใหม่ ๆ ทำให้เปิดใจเราตรงที่ว่ามันไม่ต้องเท่ตลอดเวลาก็ได้ สนุกกับมันบ้าง อย่าไปเครียดเยอะ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้มันรู้สึกเฟรชขึ้นมาบ้าง มันเป็นอะไรที่ดีเหมือนกันนะ ผมก็เลยค่อนข้างจะเซอร์ไพรส์ เรียกว่าชื่นชอบในส่วนของไอเดียน้องเขามากเลยครับ

เน้นแนวบู๊มาโดยตลอด

Ryou | คือเราก็รู้จักพี่พีมาก่อน ก็จะพอรู้อยู่แล้วว่าเขามีความสามารถในการแสดงในเรื่องของพวกแอคชั่นหรือว่าการแสดงหน้ากล้องซึ่งพี่เขาก็ทำออกมาได้ดีครับ

Reizier | เหมือนประมาณว่าด้วยความที่รู้จักกันมานาน ก็เลยไม่ได้มีความแบบเซอร์ไพรส์กันว่านายมีอย่างนั้นด้วยเหรอ คือเรารู้จักกันมานาน คือก็มีมุมที่เซอร์ไพรซ์บ้างกับมุมที่เราก็รู้กันอยู่แล้ว

Ryou | พี่พีก็ขึ้นประกวดมาหลายเวทีแล้ว เคยชนะมาก็หลายเวที ก็เป็นสิ่งที่เราเห็นผลงานของเขามาบ้างก็เลยไม่เซอร์ไพรซ์เท่าไหร่ ในขณะที่ของผมยังไม่ค่อยมีผลงาน ไม่ค่อยได้ขึ้นประกวดเยอะเท่าไหร่




15 | คิดว่าทีมของเรามีจุดแข็ง จุดด้อยอะไรบ้างไหมคะ ?

Ryou | วีดีโอที่เราทำออกมาก็คิดว่ามันยังไม่สุดมากขนาดนั้น รู้สึกว่าเรายังใหม่กับการทำวีดีโอจริง ๆ ยังมีเรื่องที่เราต้องเรียนรู้อีกมาก เรายังสามารถที่จะเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ
ในการทำวีดีโอ บางทีมันไม่ใช่แค่เรื่องของไอเดีย อุปกรณ์ มันเป็นเรื่องของภาพ มุม เอฟเฟค ที่มาช่วยเสริมให้วีดีโอมันน่าสนใจยิ่งขึ้นนะครับ

Reizier | ผมว่าจริง ๆ ปัญหาคือเราทำภาพรวมสุดท้ายออกมาอาจจะยังไม่เป็นที่พอใจกับพวกเรามากเท่าไหร่ เราอาจจะเรียนรู้และเข้าใจว่า อ๋อ มันอาจจะต้องทำแบบนี้ มันต้องทำแบบนั้น ตามขั้นตอนที่เราเรียนรู้มาหรือที่เราศึกษากันมา แล้วพอลองมาทำให้เกิดผลงานจริง ๆ มันยังไม่ได้ออกมาเป็นที่ถูกใจระหว่างเรากับน้องมากนัก

Ryou | ถ้าพูดถึงวีดีโอที่เราทำ เราก็รู้สึกว่าเราทำมันเต็มที่แล้วในตอนนั้นแล้วจริง ๆ แล้วถ้าเกิดมีโอกาสให้ทำวีดีโอต่อ ๆ ไป เราก็อยากทำให้มันให้ดีขึ้น ลองศึกษาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับวีดีโอที่แล้วมาแก้ไขปรับปรุงแล้วก็ทำวีดีโอใหม่ที่ดีกว่าเดิม พัฒนาขึ้นไปหลังจากนี้ครับ

Reizier | เราน่าจะต้องพัฒนาต่อไปเพื่อพัฒนาให้เกิดผลงานต่อ ๆ ไปนะครับ คิดว่ายังมีผลงานด้านนี้ในอนาคตก็ได้เพราะมันเป็นเรื่องที่สนุก น่าสนใจ

Cosplus | แล้วคิดว่าอะไรคือจุดแข็งของเราคะ

Ryou |  จุดแข็งของเราน่าจะเป็นความแปลกใหม่เพราะว่าสิ่งที่เราทำ คืออยากลองทำวีดีโอเป็นโชว์ที่ไม่เหมือนที่เคยทำมาก่อน แนวที่แปลกกว่าปกติหรือว่าไอเดียที่คนอื่นรู้สึกว่าอย่างนี้มันก็ดีนะ หรือเป็นสิ่งใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อน

Reizier | ผมนี้ไม่มีอะไรเสริมเลยครับ ตามที่น้องบอกมาเลยครับ




16 | ด้วยความที่เป็นประกวดออนไลน์แบบข้ามประเทศ คิดว่ามันยากง่ายยังไงถ้าเทียบกับประกวดตามปกติคะ ?

Ryou |  อย่างแรกที่ต้องยอมรับคือทุนที่มากขึ้นในการถ่ายทำครับเพราะว่าเรื่องภาพก็เป็นส่วนสำคัญเรื่องหนึ่งของวิดีโอ ซึ่งก็ไม่ได้บอกว่าทุกคนจำเป็นต้องหากล้องดี ๆ มาใช้หรือว่ากล้องระดับใช้ถ่ายภาพยนตร์มาใช้นะครับ แต่แค่ว่าบางมุม บางภาพ บางจังหวะ ภาพที่ดีกว่าก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า สามารถทำให้คนดูเข้าถึงวีดีโอได้มากกว่านะครับ

เรารู้สึกว่าแต่ละอย่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน เพราะว่าการแสดงบนเวทีคือการแสดงม้วนเดียวจบคือ ตั้งแต่ต้นจนถึงจนเวลาจบ เราทำรวดเดียวได้เลย เราสามารถขึ้นไปแสดง จะผิดพลาดหรือเป็นยังไงก็เป็นเรื่องของการแสดง ณ ตอนนั้น แต่พอเป็นภาพยนตร์เราสามารถที่จะมานั่งคัดฉากหรือว่าถ่ายทำใหม่แก้ไขได้ ก็เรียกว่าข้อดีข้อเสียต่างกัน อยู่ที่ว่าใครจะดึงข้อดีข้อเสียแต่ละอย่างมาใช้ได้ดีที่สุดนะครับ

Reizier | บนเวทีนี่มันเหนื่อยทีเดียวนะครับ แต่พอมันเป็นวีดีโอมันแบบ มันไม่พอใจเอาใหม่ ไม่พอใจเอาใหม่มัน เหมือนมันเหนื่อยซ้ำ ๆ นะครับ เราเลยพอจะเข้าใจอารมณ์นักแสดงในระดับหนึ่งว่าเวลาเขาถ่ายทำแล้วต้องถ่ายหลาย ๆ เทค เขาจะเหนื่อย จะรู้สึกยังไง ลำบากยังไง แล้วก็หลาย ๆ อย่างมันต้องใช้ทุนในการทำสูงด้วย ค่าใช้จ่ายก็จะค่อนข้างบานเบอะเลยทีเดียวครับ




17 | แล้วการหาสถานที่ถ่ายทำ หายากไหมคะในสถานการณ์แบบนี้ ?

Ryou | ลำบากครับ เพราะว่าเรื่องของการเดินทาง สถานที่ที่ใช้ได้ เนื่องจากว่าเราต้องถ่ายทำแล้วก็มีทีมงานหลายคนมีทั้งตากล้อง คนแสดง คนที่คอยช่วยต่าง ๆ และด้วยที่จะไปใช้พื้นที่สาธารณะในการถ่ายทำในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ก็ทำให้บางสถานที่ บางตัวเลือกต้องตัดออกหรือไม่สามารถไปใช้ได้ครับ

Reizier | มันลำบากในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการเดินทาง การเจอผู้คน การติดต่อ ทุกอย่างเป็นเรื่องยากมาก ๆ ในการหาจุดที่ลงตัว จุดที่ว่างั้นเอาตรงนี้ละกัน กว่าจะตัดสินใจกว่าจะเลือกได้ก็ตัดสินใจกันลำบากว่าแบบตรงนี้จะได้ไหม ตรงนั้นจะได้ไหม ถ้าตรงนี้ไม่ได้เอาตรงนั้นได้ไหม แต่ก็ท้ายสุดเลยได้สถานที่จากพี่ ๆ ใจดีครับ




18 | นอกจากเรื่องโควิด-19 แล้ว ยังมีอุปสรรคอื่นที่เกิดขึ้นอีกบ้างไหมคะ ?

Ryou | ก็จะมีบ้างพวกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น เรื่องเสียง ด้วยว่าวิดีโอที่เราทำนะครับก็ต้องใช้เสียงที่ไม่ติดลิขสิทธิ์เพราะฉะนั้นบางเพลง บางจังหวะ ก็จำเป็นต้องเล่นดนตรีหรือทำเสียงประกอบด้วยตัวเองหรือ เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ฝนตกตอนทำสีนะครับ

Reizier | ต้องบอกว่าเป็นอุปสรรคทั่วไปที่เจอได้ตามปกติอยู่แล้วเวลาที่ต้องเตรียมตัวอะไรแบบนี้ อย่างปัญหาของผมก็จะแตกต่างกับของน้อง อุปสรรคสำคัญของผมจะเป็นเรื่องของการบริหารจัดการ แบบฉันจะต้องไปจัดการเรื่องนั้น ไปจัดการเรื่องนี้ แล้วก็ต้องมาทำประกวดต่อ ก็ต้องเรียงลำดับบริหารจัดการซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับผม 

บางทีเราก็รู้สึกว่าเราผิดพลาดในจุดนี้ ในการที่จะไปทำให้มันสมบูรณ์มากขึ้น แต่ว่ามีบุ๊คช่วยคอยให้ความช่วยเหลือแบบ “โอเคพี่ ไม่เป็นไรพี่ ใจเย็น ๆ” ซึ่งเราเจออุปสรรคอะไรอย่างนี้แล้วเราไม่สามารถทำให้เต็มที่แล้วก็จะรู้สึกแบบ “แม่ง ไม่ไหวเลยว่ะ” น้องก็พยายามเชียร์อัพเราแบบ “ไม่เป็นไรพี่ ไม่เป็นไรพี่ ค่อย ๆ ทำ” ก็เลยทำให้ค่อย ๆ ผ่านไปได้

ช่วงที่ต้องเร่งหนัก ๆ ก็จะมีอาการลน ๆ ก็จะมีอาการเบลอ ๆ …คัตเตอร์บาดนิ้วบ้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นทั่วไปอะไรแบบนี้ครับ




19 | แล้วพอทำผลงานเสร็จออกมา เราคาดหวังกับผลงานของเราไว้ประมาณไหนคะ ?

Ryou | ก็ประมาณ อย่างน้อยถ้าไม่ขำมากก็ต้องมียิ้มมุมปากสักนิดนะครับ เพราะเรารู้สึกว่าเราทำมาเพื่อความบันเทิงจริง ๆ อยากให้ทุกคนยิ้มกับมันได้จริง ๆ แล้วก็ยินดีมาก ๆ ที่มีเพื่อน ๆ หลายคนจากหลาย ๆ ชาติที่เข้ามาพูดคุยเรื่องวิดีโอของเราและบางคนก็ชอบไอเดียที่เรานำเสนอไป

Reizier | คือเรื่องรางวัลเราไม่มีทางรู้อยู่แล้วว่ามันจะออกมาเป็นยังไง ที่นี่พอผลลัพธ์ออกมาเห็นว่าเพื่อน ๆ ที่เข้าร่วมประกวดเขาบอกว่าวีดีโอนายขำนะ วีดีโอนายเจ๋งนะ ซึ่งมันก็เป็น feedback จากชาติอื่น ๆ ที่เข้ามา แล้วก็ โอ้ ต่างประเทศเขาก็ดูจะชื่นชอบผลงานของพวกเราเหมือนกันเนาะ เขาขำ เขาเก็ต แสดงว่าไอเดียที่เราคิดกันมามันได้ผล มันถึงจุดที่คนดูเขาเอ็นจอยไปกับผลงานของเรานะครับ 

Reizier และ Ryou ตัวแทนประเทศไทยประกวดคอสเพลย์ World Cosplay Summit 2021 Video Division

Cosplus | อย่างนี้แสดงว่าเราก็มีโอกาสได้คุยกับตัวแทนทีมอื่นด้วยใช่ไหมคะ

Reizier | ใช่ครับ ด้วยความที่เป็นออนไลน์ เราก็มีโอกาสที่มารวมกลุ่มกันแบบออนไลน์ ได้พูดคุยกัน ก็คือยังได้เห็นเพื่อน ๆ ในแต่ละชาติกันอยู่ครับ ไม่ใช่ว่าพอไม่ได้ไปญี่ปุ่นแล้วก็ไม่ได้เจอกัน แต่นี่คือได้มาเจอมาประชุม Video Call กัน Video Conference เจอหน้ากันและพูดคุยกัน แล้วหลังจากนั้นทุกคนก็ไปคอนแทคติดต่อกันเองใน Social Media ของแต่ละคน ก็ได้พูดคุยกันต่อ ได้สนทนากันกับเพื่อนชาติต่าง ๆ กัน




20 | แล้วได้ดูโชว์ คลิปการแสดงของทีมอื่น ๆ บ้างไหมคะ มีทีมไหนที่ชอบที่ประทับใจหรือเปล่า

Ryou | โดยส่วนตัวโชว์ที่ผมชอบมาก ๆ จะเป็นของทีมเม็กซิโกนะครับ Resident Evil RE3 ด้วยความที่เราเล่นเกมแล้วเราก็อยู่กับซีรี่ย์ Resident Evil มาตั้งแต่เด็ก งานที่เขาทำออกมาดูดีมาก ๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการทำชุด การแสดง คือเราได้เห็นวีดีโอ ได้เห็นเบื้องหลังที่เขาทำคือมันสุดยอดมาก ๆ จริงครับ

จริง ๆ ก็ชอบของทุกทีมครับ เขามีไอเดียของเขาในการนำเสนอวีดีโอคอสเพลย์ในตัวละครที่เขาชอบและก็ออกมาในรูปแบบที่เขาต้องการ

Reizier | ของผมก็มีหลายทีมมาก ๆ ที่เราดูแล้วรู้สึกว่าเค้ามีไอเดียต่าง ๆ ที่แต่ละชาติต้องการจะนำเสนอ จะพูดว่าเราชื่นชอบของทุกทีมก็ได้นะครับ มันมีไอเดีย มีเทคนิคต่าง ๆ ที่เราก็คาดไม่ถึง เราได้เห็นไอเดีย ผลงานของแต่ละชาติ ทุกคนปล่อยของออกมาโดยที่เราก็แบบ โอ้โห อะไรเนี่ย เทคนิคของแต่ละชาติที่เขาทำแต่ละด้านมันสุดยอดมาก ๆ มีอะไรที่เราสามารถไปพูดถึงต่อได้เยอะมาก 

ผมชอบเม็กซิโกตรงที่ว่า โอ้โห ฉากมันรีเลทกับเกมแล้วตัว Nemesis ก็ทำออกมาได้อย่างดี มันมีความตื่นเต้น มันเหมือนกับเราเล่นเกม มีฉากตื่นเต้น คือทุกอย่างองค์ประกอบมาครบ ภาพ ฉาก ตัวละคร ทุกอย่าง ผลลัพธ์มันดี

หรือบางชาติที่เราได้เห็นแล้วตกใจว่า โอโห้ ทำไมโลเคชั่นประเทศเขาดีจังเลย เห็นแล้วรู้สึกอิจฉาต่างประเทศที่โลเคชั่นเขาดีมาก ๆ เขาไปหาถ่ายกันได้สวยมาก ๆ อย่างของยูเครนคือโลเคชั่นดีมาก ๆ หลายชาติมาก ๆ เลยที่มีโลเคชั่นดี

หรือของอินโดนีเซีย เราก็แบบ โอ้โห เราก็เคยดูดราก้อนบอลมาตั้งแต่เด็ก ได้เห็นเซลล์กับโกฮัง แล้วก็โอ้โห เอฟเฟคอย่างนี้ เราดูแล้วรู้สึกสนุกมาก เขาต่อสู้สนุกกันจัง มีการปล่อยพลัง มีนั่นมีนี่ อย่างการแสดงที่ต้องใส่ CG เพื่อปล่อยพลังก็คืออินโดนีเซียกับอิตาลีทำออกมาได้สวยงามมาก เราแบบ โอ้โหงานของเขามันมันเจ๋งมาก ๆ 

เรารู้สึกอยากพูดถึงผลงานของแต่ละชาติในด้านต่าง ๆ เราไม่ได้บอกว่าของคนไหนดีที่สุด เราเห็นของแต่ละชาติก็รู้สึกประทับใจของชาตินี้ตรงด้านไหน เราชอบเขาตรงไหน อย่างออสเตรเลียผมก็ชอบคือเขาไม่ต้องทำอะไรมากเลย เขาขายขำอย่างเดียว ผมดูก็นั่งขำ เขาก็บรรลุจุดประสงค์ของเขาก็คือให้คนดูขำแล้วมันก็ขำจริง ๆ คือเขาก็ไม่ได้ทำออกมาแบบอลังการ คือแบบมีหัวเป็นกล่องแล้วก็ชุดที่เขาทำ โอเคมันอาจจะไม่ได้เป็นวีดีโอที่มาเพื่อประกวดแล้วต้องได้รับรางวัล แต่สิ่งที่เขาทำสำเร็จคือทำให้คุณดูมีความสุข 

เป็นอะไรที่เรารู้สึกว่าแต่ละชาติมีอะไรที่เราพูดถึง แล้วก็ประทับใจได้ทุกทีมจริง ๆ ครับ




21 | หลังจากที่เสร็จสิ้นการประกวด WCS ทุกอย่างไปแล้วตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างคะ ?

Reizier | ของผมน่าจะเรียกว่าโล่งก่อน โอเคจบแล้วสินะ รู้สึกว่าโอเคมันแฮปปี้นะ มันจบนะ แต่หลังจากนั้นผ่านไปซัก 1-2 วันก็มานั่งตกผลึกกับตัวเองว่าหลังจากนี้เราจะทำอะไรต่อ ก็ค่อย ๆ ตกผลึกตัวเอง หาแรงบันดาลใจให้ตัวเองเพิ่ม ก้าวต่อไปของเราจะทำอะไรต่อ เอาจริง ๆ ตั้งแต่ต้นปีมาถ้าไม่นับ WCS ตัวผมเองก็แทบไม่ได้แต่งคอสเพลย์เลย ก็เลยรู้สึกว่าแล้วผลงานหรือก้าวต่อไปของเรา ณ จุดแห่งนี้เราจะทำอะไรต่อ

มันไม่ใช่ว่าเราเป็นตัวแทนประเทศไทยแล้วก็จบ สำเร็จแล้ว แต่นี่คือแบบพอเราจบตรงนี้แล้ว แล้วก้าวต่อไปจะทำอะไรต่อ แต่ก็อยากจะบอกว่าขอพักผ่อนสักแป๊บนึงนะครับ เพื่อที่จะตกผลึกแล้วก็หาก้าวต่อไป

อีกอย่างคือ ด้วยความที่ปีนี้มันเป็นออนไลน์ ก็ยังรู้สึกขัดใจ แล้วก็ติดใจตรงที่ว่าเราก็ยังไม่ได้ไปญี่ปุ่นอยู่ดีเราก็ยังไม่ได้ไปแข่งที่นู่นอยู่ดี เรายังอยากจะไปสัมผัส อยากไปซึมซับบรรยากาศการแข่งขันที่นู่นอยู่ดี ก็ถ้าเกิดมีโอกาสครั้งต่อไปก็ค่อยคิดอีกทีว่าเราจะลงอีกทีเมื่อไหร่หรือจะพร้อมเมื่อไหร่ ก็เป็นเรื่องของอนาคตนะครับ

Ryou | หลังจากจบ WCS ในรอบวิดีโอ ก็เปิดประสบการณ์กับมุมมองใหม่ ๆ กับการทำวีดีโอ รู้สึกว่าเราสนุกกับมันนะ ยังอยากลองทำวิดีโอในหลาย ๆ รูปแบบในแต่ละแนว มีบางตัวอย่างที่เป็นวิดีโอที่เราคิดว่าอยากลองทำแบบนี้จะเป็นไปได้ไหม ทำออกมามันจะสนุกไหม ก็คิดว่ายังอยากจะลองทำผลงานในแนววิดีโอเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตครับ 

คิดว่าได้ประสบการณ์จากเวทีนี้ค่อนข้างเยอะ แล้วก็ได้เพื่อนต่างชาติที่คุยกัน บางคนก็มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน ได้มาคุยกันเป็นเพื่อนกันจนถึงทุกวันนี้ 

แล้วก็ยังอยากที่จะไปญี่ปุ่น ไปทำการแสดงบนเวทีที่ญี่ปุ่น เรารู้สึกว่าในส่วนของวีดีโอกับบนเวทีมันมีความแตกต่างกันอยู่ ก็คิดว่าถ้าจะทำผลงานใดอันหนึ่งก็อยากลองทำทั้งหมดไปเลย อยากลองทำทุกอย่างเท่าที่เราจะทำได้ในตอนที่เรายังมีไฟครับ




22 | มีสกิลอันไหนที่เรารู้สึกว่ามันเพิ่มขึ้นมาหรือก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมาก่อนแล้วมันมีขึ้นมาเพราะว่าการประกวดอันนี้คะ ?

Ryou | คิดว่าเราได้รับประสบการณ์ในทุกรูปแบบเพิ่มขึ้นครับ เนื่องด้วยในการทำวิดีโอเราก็ต้องทำด้วยตัวเอง ยังต้องมาดูการแสดงความรู้สึกว่ามันเป็นการพัฒนาและในรูปแบบหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน

Reizier | ทุกอย่างมันไม่ได้เริ่มจากศูนย์มาซะทีเดียว เพราะเรามีเล็ก ๆ น้อย ๆ กันอยู่แล้วบ้าง แต่คือทุกอย่างมันถูกพัฒนาขึ้น คือหลาย ๆ อย่างมันทำให้เราได้เกิดแนวคิดใหม่ ๆ มุมมองใหม่ ๆ ทักษะใหม่ ๆ ที่ทำให้เราเกิดการเรียนรู้และพัฒนา เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานอื่น ๆ นะครับ

อย่างของบุ๊ค น้องอยากจะทำวิดีโอมากขึ้นเพราะว่ามันเหมือนเป็นอีกหนึ่งแขนงของการทำผลงานคอสเพลย์ และผมรู้สึกว่าเป็นรูปแบบที่มันน่าจะดูแล้วมันสนุกเพราะว่าปกติถ้าแต่งคอสเพลย์ถ่ายภาพมันมีมุมมีท่าทาง หน้าช็อตนั้นช็อตเดียว แต่ถ้าเป็นวีดีโอมันเป็นโปรเจคที่มันใหญ่ขึ้น ต้องมีทักษะ ทำอะไรมากขึ้นทั้งรูปแบบ ท่าทาง มุมกล้อง การตัดต่อ ซึ่งเราก็อยากจะเห็นว่าถ้าเราทำผลงานออกมาในอนาคตแล้วคนอื่นได้เห็นมันจะออกมาเป็นยังไงด้วยนะครับ 




23 | ทั้งสองคนก็ผ่านอะไรกันมาด้วยกัน มีอะไรอยากบอกกันและกันไหมคะ ?

Reizier | ต้องขอบคุณบุ๊คที่ชวนแล้วก็พาผมไปถึงจุดที่ตัวเราเคยคาดฝันไว้ คือบุ๊คเป็นน้องที่เราให้ความนับถือระดับหนึ่ง ผมจะค่อนข้างเกรงใจน้องนะครับ คือน้องชวนเรามาก็คงอยากให้เราเป็นอีกหนึ่งคนที่คอยทำผลงานร่วมกันไปกับน้อง ซึ่งเราก็รู้สึกว่ายินดีที่ร่วมงานไปกับน้องแต่ว่าเราก็กำลังไม่มั่นใจว่าเราจะทำผลงานออกมาได้ดีมากขนาดไหน แต่น้องก็เชื่อใจเรา ก็ขอบคุณที่น้องชวนแล้วก็ขอบคุณที่เชื่อใจ

ขอบคุณน้องที่คอยเชียร์เรา แบบ “มั่นใจพี่” คอยช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ พาไปถึงจุดที่เราได้เป็นตัวแทนประเทศไทยในปีนี้ ต้องขอบคุณน้องจริง ๆ เป็นแรงสนับสนุนและทำให้เรารู้สึกว่าเราพร้อมที่จะไปต่อในสังคมนี้ ในงานอดิเรกนี้ต่อไปนะ เพราะบางทีก็มีที่เรารู้สึกว่า “หรือว่าเราคงต้องหยุดนะ” แต่พอน้องมาชวนมาทำงานร่วมกัน มันมีหลาย ๆ ด้านที่รู้สึกว่าเราทุกคนมีข้อผิดพลาดของตัวเอง เราไม่ได้สมบูรณ์แบบแต่น้องก็ยังเชื่อใจเรา ก็รู้สึกว่าโอเค เราจะไปต่อ เราจะพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ ให้มันดีขึ้น ก็หลังจากที่น้องชวนเข้ามาทำงานร่วมกันและก็จบลงตรงนี้แล้ว เราก็รู้สึกว่าเราก็คาดหวังอยากเห็นตัวเองที่มีผลงานที่ดีขึ้นต่อ ๆ ไปอยากจะพัฒนาตัวเองต่อ อยากมีผลงานมากขึ้น มีผลงานที่ดีต่อไปนะครับ

Ryou | ผมก็ขอขอบคุณพี่พี ที่ยอมมาร่วมหัวจมท้ายไปกับไอเดียแปลก ๆ ที่เรามี และก็ความสามารถของเขาที่ผ่านมาหลาย ๆ เวทีเขาก็จะคอยแนะนำเรา เสนอไอเดียอะไรต่าง ๆ ที่นำมาใช้ร่วมกัน ซึ่งหลาย ๆ อย่างก็ผ่านการคุยกันมาเยอะ ขอบคุณพี่พี่ที่แบบคุยกันง่าย พี่เขารับฟังทุกอย่างที่เราพูด อันไหนไม่ดีก็จะแก้ไขให้เรา ยอมที่จะเชื่อมั่นในมือใหม่อย่างเราแล้วก็ทำผลงานด้วยกันครับ

Reizier | ด้วยความที่มันเป็นปีแรกระหว่างผมกับน้อง เป็นการจับคู่กันครั้งแรกจริง ๆ เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ความคุ้นเคยของเราเหมือนตอนที่เราจับคู่กับพี่น็อค คือเราคุ้นเคยกันมากแต่พอเป็นน้องบุ๊ค ถึงเราจะรู้จักกันมาก่อนระดับหนึ่ง แต่พอต้องมาร่วมมือกันกับการแข่งขันครั้งนี้มันรู้สึกว่าเรายังไม่ชิน เราจะรู้สึกประดักประเดิดไปเองว่าน้องเขาจะโอเคไหม เขาจะคิดยังไงกับไอเดียนี้ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยเป็นผลงานได้

คือทีมเวิร์คมันเกิดจากการที่เราพูดคุยกันในระดับที่ว่ามันจะดีจริง ๆ ใช่ไหม มันต้องยืนยันกันว่าจะเอาแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหม ไม่ใช่แค่แบบ ครับ ครับ โอเคเฉย ๆ  มันเกิดจากการที่เราต้องเชื่อใจกันมากพอสมควรแล้วก็ต้องเปิดใจยอมรับให้กับอีกคนนึงให้ได้มากขึ้น เพราะบางทีที่เราก็ต่างเกร็ง ต่างเกรงใจกัน เราก็อาจจะต้องแบบต้องคุยกันให้เยอะขึ้น

ถ้าเกิดว่าเราอยากให้มันมีอะไรที่มันพัฒนาต่อขึ้นไป ก็อาจจะต้องใช้เวลาในการพูดคุยมากขึ้น อาจจะต้องมีความสนิทที่เพิ่มมากขึ้น ต้องพูดคุยกันมากกว่านี้ในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่เราจะมีกันทั้งคู่ก็คือเราค่อนข้างจะเชื่อว่าต่างคนต่างมีศักยภาพในกันและกันนะครับ




24 | มีใครที่เราอยากขอบคุณอีกไหมคะ ?

Ryou | ก็มีพี่ ๆ Village Hope ที่คอยให้คำแนะนำและคอยรับฟังหลาย ๆ อย่างของเรา เช่น พวกไอเดียหรือความเป็นไปได้ของสิ่งนั้น ๆ แล้วคอยแนะนำแบบว่าสอนเรื่องวิธีการทำพร็อพส์ ก็ได้เรียนรู้จากพี่ ๆ มาหลาย ๆ เช่น เรื่องการแสดง เรื่องวิธีการทำชุดทั่วไป

Reizier | ของผมคือต้องขอบคุณพี่ ๆ Village Hope มาก ๆ ต้องบอกว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้ตัดสินใจลงประกวด WCS บ่อย ๆ ก็คือจากพี่ ๆ Village Hope ตรงที่ว่าเขาเห็นเรา แล้วเขาก็เชื่อว่ามันเป็นไปได้นะสำหรับเด็กคนนี้ที่น่าจะทำได้ คือมันมีจุดหนึ่งตรงที่ว่าแม้แต่ตัวเราเอง เราก็ยังไม่เชื่อในตัวเองแต่มันมีคำพูดหนึ่งคือ “ถ้าเกิดว่าเราไม่เชื่อในตัวเองก็ขอให้เชื่อคนอื่นที่เชื่อในตัวเราบ้างก็ได้” พอเขาเชื่อว่าเราสามารถทำได้เราก็เลยลองที่จะทำมัน ณ จุดนั้น แล้วรู้สึกว่าพี่ ๆ เขาทำให้เราได้รับทักษะ ได้รับการพัฒนา มีทั้งการให้ความรู้ เทคนิค เรียกได้ว่าหลาย ๆ อย่างที่ผมสามารถพัฒนามาได้จนถึงตอนนี้พี่ ๆ Village Hope เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราพัฒนาเติบโตขึ้นมาได้ อันนี้คือหลัก ๆ ที่เราอยากจะขอบคุณมากจริง ๆ

และก็ยังมีพี่ที่เป็นอดีตตัวแทนอย่างพี่เฟย์ (Yuegene Fay) ที่หลังจากแข่งเสร็จ เขาเป็นกรรมการรอบคัดเลือก เขาก็แบบว่างคุยไหม ก็ให้คำแนะนำหลังจากนั้นมาคุยกับผม 2 คน ก็ด้วยความที่พี่เฟย์เป็นคนใจดีมาก ๆ ก็เลยแนะนำเราว่าแนวทางนี้ไหม จุดไหนที่ต้องพัฒนา คือเราได้รับประสบการณ์จากพี่หลาย ๆ คนต้องบอกว่าเราโชคดีที่ผู้มีประสบการณ์คอยให้คำแนะนำและก็นำประสบการณ์ของเขามาแบ่งปันให้เรา ได้รับรู้และก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราได้มาพัฒนาเพราะว่าบางครั้งเราเองก็มีจุดบอดที่เรามองไม่เห็นแต่พี่ ๆ เขามองเห็นและคอยชี้ว่าเรามีจุดอ่อนตรงนี้นะ อะไรตรงไหนที่ยังทำไม่ได้ลองทำตามแบบนี้ดูไหม แล้วก็เทคนิคต่าง ๆ ในการทำงาน เราได้เห็นการทำงานของพี่ ๆ บ้างและเขาก็แบ่งปันบ้างว่านายลองทำดู 

คือความรู้ที่เราได้รับจากพี่ก็เรื่องหนึ่ง แต่ทักษะเราไม่สามารถทำได้ด้วยการรับจากคนอื่นตรง ๆ

ทักษะแบ่งปันได้ก็จริงแต่สิ่งที่จะนำไปพัฒนาต่อได้คือตัวเราเอง พอเขาได้แบ่งปันความรู้ เราควรจะพัฒนาทักษะเพราะว่าทักษะไม่สามารถไปซื้อหามาทำได้เลย มันเกิดจากการฝึกฝน ทำงาน ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ แล้วถึงจะชำนาญได้ด้วยตัวเราเอง อันนี้คือส่วนที่เราอยากจะขอบคุณพี่ ๆ ที่เขาได้แบ่งปันประสบการณ์และแชร์เทคนิค

ต่อมาก็ขอขอบคุณผู้เข้าแข่งขันในรอบประกวดที่ผ่านมา ตรงที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ควรจะหยุดนิ่ง ถ้าเราหยุดนิ่งคือเราแพ้ ทุกครั้งที่ได้เจอเพื่อน ๆ ที่ประกวดเหมือนกัน คือผมก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นสายประกวดนะ แต่ผมเข้าประกวดแล้วก็ได้เจอขาประจำที่จะได้เห็นกันบ่อย ๆ เราก็รู้สึกว่าพี่ ๆ เขาพัฒนาขึ้นอยู่ตลอด ทุกคนพัฒนาอยู่ตลอด และเราก็รู้สึกว่าเราก็ต้องอย่าหยุดนิ่งนะ เราก็ต้องพัฒนาตัวเองบ้าง ก็คือขอบคุณผู้เข้าประกวดทุกคนที่เคยแข่งด้วยกันมา ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ควรจะหยุดนิ่ง

และก็ขอบคุณเพื่อน ๆ รอบตัวที่ให้เขารู้ว่าเราเป็นคนเฟลง่าย เฟลบ่อยมากช่วงหลัง เขาบอกว่า “นายทำได้ นายทำได้ นายทำได้” เขาเชื่อในตัวเราอยู่เสมอ เราก็รู้สึกว่าถ้าเพื่อนเชื่อในตัวเรา เราก็จะพัฒนาตัวเองต่อไป ก็อยากจะขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่ควรจะล้มเลิกง่าย ๆ เพราะเขาเชื่อในตัวเราประมาณนี้นะครับ

Ryou | หลายคนรอบ ๆ ตัวเราก็มีส่วนที่ให้กำลังใจหรือช่วยเหลือเราในเวลาที่เรารู้สึกแย่หรือว่าเรารู้สึกเหนื่อยบางทีแค่คำพูดให้กำลังใจนิด ๆ หน่อยๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ในจังหวะนั้นครับ




25 | สมมุติตอนนี้อยากมีคนสนใจอยากลง World Cosplay Summit แล้วยังลังเลอยู่ มีอะไรจะบอกเขาคะ ?

Ryou | ก็อยากจะแนะนำว่า ลงเถอะครับ มันเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่ดีมากจริง ๆ เราได้เรียนรู้อะไรเยอะแยะมากมายจากเวทีนี้ ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ สิ่งสำคัญคือเราได้อะไรจากการที่เราเข้าร่วมการประกวดหลังจากนั้นมากกว่าครับ

Reizier | เวลาไม่รอใครครับ ทำเลย คือผมรู้สึกว่าประเทศเราเป็นชาติที่มีศักยภาพสูงมากเลยนะในสังคมคอสเพลย์เพียงแต่ว่าเรื่องของการแข่งขันอะไรพวกนี้ เรายังไม่ได้เห็นเป็นรูปเป็นร่างเท่าไหร่ ผมเคยเห็นการประกวดในต่างจังหวัดแล้วก็รู้สึกว่าถ้าคนเหล่านั้นมาแข่งขันที่กรุงเทพฯจะเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ๆ เลย รู้สึกว่าอยากเห็นหลาย ๆ คนที่อยู่ต่างจังหวัดมาลองท้าทายความสามารถของตัวเองบนเวทีใหญ่ ๆ แบบนี้ดูบ้าง

แล้วก็อยากเห็นผลงานจากหน้าใหม่ ๆ คนใหม่ ๆ คือผมติดตามหลาย ๆ คนที่เป็นสายประกวดอยู่ในเวทีต่างจังหวัดหรือเวทีเล็ก ๆ หรือตามงานอีเวนท์ต่าง ๆ แต่ว่าเขาไม่เคยลงของ WCS ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนที่เข้าลงประกวดเป็นประจำอยู่แล้วหลายคนน่าลง WCS มากเลย ผมก็รู้สึกว่าหลายปีที่ผมลง WCS มา ผมจะเจอแต่คนเดิม ๆ จะเจอขาประจำ เช่น กลุ่มชมรมเชียร์ C4 ที่ผมจะเห็นเขาทุกปี ผมจะเห็นพี่ไวซ์ นาโอกิ เป็นขาประจำที่เราเห็นอยู่แล้ว คือมองตาก็รู้ใจว่าลงประกวด WCS แน่นอน

แต่เราก็อยากเห็นน้อง ๆ คนอื่นบ้างที่แบบน้องควรลงแข่งขัน น้องเค้ามีศักยภาพ เรารู้สึกว่าลงเลยอย่าไปกลัว ถ้าวันหนึ่งผมไม่ได้คิดจะสนใจลงเนี่ยเราก็จะได้เห็นแต่คนเดิม ๆ แล้วรู้สึกว่าก็ควรจะต้องมีคลื่นลูกใหม่ น้อง ๆ หน้าใหม่ ๆ มาลงแข่งขันบ้าง คืออย่าเพิ่งไปคาดหวังกับการว่าฉันลงครั้งนี้แล้วฉันจะต้องเป็นที่หนึ่งเลย แต่สิ่งที่เราได้มากกว่าการได้รางวัล คือเราได้เรียนรู้อะไรจากมัน มันมีเรื่องที่เราสามารถเรียนรู้จากการแข่งขันได้เยอะ จริงอยู่ที่เราสามารถเรียนรู้จากเวทีอื่นแต่ความเข้มข้นของ WCS ผมว่ามันแตกต่างกันในระดับหนึ่งเลยทีเดียวนะเพราะว่าแต่ละคนเขามีความตั้งใจที่อยากจะชนะ เพื่อฉันจะเป็นตัวแทนเพราะว่าถ้าเราชนะเราเป็นตัวแทนไทย คือแบบเราได้เป็นตัวแทนเลยนะเว้ย อยากให้ทุกคนมาลองลงดูอยากเห็นหลาย ๆ ทีมมันน่าจะสนุกดีอยากเจอกับหลาย ๆ ทีมอยู่เหมือนกันครับ




26 | แล้วแบบนี้เรามีคำแนะนำสำหรับเตรียมตัวเบื้องต้นให้กับคนที่สนใจจะลงประกวดไหมคะ จากประสบการณ์ของเราเลย

Reizier | ….. บุ๊คมีอะไรจะแนะนำก่อนเลยไหม … ไม่ได้จะลอกการบ้านนะ (หัวเราะ)

Ryou | ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของมุมมองมากกว่าครับซึ่งเรามาแลกเปลี่ยนกันได้ ก็อยากคุยกับหลาย ๆ คนในเรื่องของการประกวด เรารู้สึกว่ายังมีอะไรที่เราต้องเรียนรู้อีกเยอะ ก็คิดว่าอย่างแรกก็คือเริ่มทำก่อนครับแล้วเราก็จะรู้ว่าเราขาดอะไร เราต้องเพิ่มอะไร ตรงไหนที่เรายังไม่พอก็คือเราต้องพัฒนาต่อจากนั้นไปเรื่อย ๆ ก็คิดว่าถ้าอยากทำก็ลงมือทำเลยครับเพราะว่าถ้าไม่ทำตอนนี้เราก็อาจจะไม่ได้ทำเลยก็ได้

Reizier | มันเป็นเรื่องของใจเราด้วยนะครับ ว่าใจเราอยากจะอยู่ตรงนั้นมากขนาดไหน ถ้าสมมุติว่าใจเราอยากจะลอง อย่าไปลังเลเลย คือลองทำก่อนแล้วเราก็จะได้รู้ว่าเราขาดอะไร มันก็มีแหละคนที่แบบสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่นแล้วสามารถทำแล้วชนะได้เลยจากการลงครั้งแรกจากประสบการณ์ที่เขามีมันก็เกิดขึ้นได้ เพียงแต่ว่าถ้าเราไม่ทำเราก็จะไม่มีโอกาสเป็นผู้ชนะเลย

แล้วสิ่งแรกที่ควรจะเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันก็คือทักษะในการบริหารจัดการ เป็นเรื่องที่ผมค่อย ๆ ได้เรียนรู้จากการแข่งขันครั้งนี้เพราะว่าผมผิดพลาดกับมันเยอะมาก ทั้งเรื่องเวลา ทั้งเรื่องเงิน อย่าลืมว่าการแข่งขันครั้งนี้มันก็คือการประชันกันถึงความสุดยอด ความเก่งกาจในด้านงานอดิเรกของเราเพราะฉะนั้นมันจะต้องเอาเวลาจากชีวิตปกติของเราไปด้วย นั่นหมายความว่าคุณจะบริหารเวลาในการใช้ชีวิตปกติ จากการเรียน จากการทำงาน จากการทำอะไรอย่างอื่นของคุณยังไงเพื่อที่จะมาทำตรงนี้ได้ หรือคุณจะบริหารค่าใช้จ่ายของคุณยังไงจากรายได้ที่คุณมี จากค่าขนมที่คุณได้ จากอะไรต่าง ๆ มาเอามาลงกับชุดกับอุปกรณ์ มาลงกับวัสดุต่าง ๆ และก็เวลาในการศึกษาเรียนรู้หาเทคนิคต่าง ๆ ในการทำโชว์ ค่อนข้างจะเป็นเรื่องสำคัญในระดับหนึ่งเพราะฉะนั้นถ้าเราบริหารจัดการเรื่องนี้ได้มันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ ในการที่จะเข้าสู่การแข่งขันครับ อันนี้คือเอาจากข้อผิดพลาดของตัวเองมาแชร์ล่ะนะครับ




27 | แล้วหลังจากนี้ มีอะไรที่เราอยากทำอีกไหมคะ ที่ต่อยอดจากการประกวดครั้งนี้

Reizier | ผมกับน้องค่อนข้างจะมองว่าการได้ทำพวก Cosplay Showcase แบบวีดิโอเป็นอะไรที่น่าสนใจมากคือเคยคุยกันแป๊บนึงว่าถ้าทำวีดีโอมันก็เจ๋งดีนะ เหมือนเป็น Next Step ของการโชว์ผลงานของพวกเรา เป็นผลงานแบบวิดีโอนะ ถ้ามีใครสนใจจะมาร่วมก็ได้นะ มันก็น่าจะเป็นอะไรที่สนุกท้าทายและเป็นเรื่องใหม่ ๆ 

เอาจริง ๆ สำหรับผมถ้าบอกว่าจะต้องทำอะไรต่อนอกจากการประกวดแข่งขัน คือ เราก็ทำมาเกือบจะหมดแล้วทั้งเรื่องการประกวด ทั้งเรื่องคอสเพลย์ปกติ มันเหมือนเราทำพร็อพส์ไปแล้ว เรื่องต่าง ๆ นานาทำไปแล้ว คอสเพลย์แต่งชุดถ่ายภาพทำไปแล้ว แต่วีดีโอคือยังไม่ได้มีผลงานออกมา มันไม่ใช่ผลงานภาพที่เราเห็นทั่วไปหรือแบบพวก Short Clip ใน Tik Tok แต่อันนี้มันคือ Showcase แบบที่เราอยากจะเอามาต่อยอดจากการแข่งขันในครั้งนี้

แต่ว่าก็ไม่รู้ว่ามันจะสามารถเกิดขึ้นได้ในตอนไหนด้วยสถานการณ์ ณ ตอนนี้ที่เกิดขึ้นในประเทศเรา มันค่อนข้างจะเป็นเรื่องยาก เป็นอะไรที่บั่นทอนกำลังใจพอสมควรในการที่จะผลิตผลงานเพราะว่าเอาจริง ๆ ผมเชื่อว่าคอสเพลย์เยอร์หลาย ๆ คนก็คงจะโหยหางานอีเว้นท์ โหยหางาน อยากเจอ อยากพบปะเพื่อน ๆ กันแล้ว แต่ถ้าทุกคนยังชอบคอสเพลย์ขอแค่ได้แต่งชุดเพื่อหล่อเลี้ยงจิตใจ เพื่อที่สักวันหนึ่งก็จะได้กลับมาเจอกัน แล้วแบบ “ดูสิว่าฉันทำอะไรมาในช่วงฉันล็อคดาวน์” อะไรแบบนี้นะครับ ก็คงเป็นอะไรที่เจ๋งดี

ส่วนเรื่องทำอะไรอย่างอื่นต่อไปก็คืออาจจะได้เห็นวีดีโอจากน้องบุ๊คแน่ ๆ ส่วนจากทางผมก็อาจจะไปแจม ๆ กับน้อง ผมชอบเป็นผู้ตามมากกว่าเป็นผู้นำ (หัวเราะ) ตอนนี้สิ่งที่จะทำมันยังทำได้ยากอยู่ด้วยข้อบังคับในช่วงนี้ กว่าจะกลับมาทำได้มันต้องใช้เวลาและมันเป็นปัจจัยที่เราคุมไม่ได้ ได้แต่รอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปให้ได้ ก็ต้องอดทนกับมันนิดนึงเพราะว่าการไม่ได้เจอเพื่อน ๆ ในงานคอสเพลย์มันก็เหงาเหมือนกันนะ หรือว่าการที่เราต้อง Work from home ไม่ได้เจอผู้คนก็รู้สึกเหงา ๆ นิดนึงก็อยากให้ทุกคนสู้ ๆ ครับ

และหวังว่าทุกอย่างมันจะกลับมาดีขึ้นแล้วทำให้พวกเรากลับมามีผลงาน ได้พูดคุยกันอีกครั้งเจอกันใหม่อีกครั้งนึงครับ

Ryou | ก็อยากลองต่อยอดจากกับสิ่งที่เราได้รับมาอย่างเรื่องการทำวีดีโอ หรือว่าไอเดียที่เกิดขึ้นต่าง ๆ มากมายที่ที่คิดขึ้นมาแล้วยังไม่ได้ลงมือทำเลย และเพราะว่าเราก็ยังไม่เก่งก็เลยต้องพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ จากทักษะตอนนี้จนถึงอนาคต ก็อยากลองดูเหมือนกันครับว่าผลงานที่เราทำออกมาจะทำได้ดีแค่ไหนและก็คนอื่น ๆ จะชอบผลงานของเราไหม

ถ้าเป็นไปได้ก็อยากพูดคุยกับใครหลาย ๆ คน ทุก ๆ คนที่สนใจกับการประกวดหรือคนที่ลงประกวดอยู่แล้วมาพูดคุยกันในเรื่องของไอเดียการประกวดเพราะว่าช่วงนี้เราก็ยังมีปัญหาโควิด-19 การประกวดบนเวทีอาจจะเปลี่ยนแปลงเป็นประกวดวีดีโอซึ่งก็ไม่ค่อยมีใครทำเท่าไหร่ หลาย ๆ คนอาจจะใหม่ในตรงนี้กันบ้าง มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือว่าพูดคุยกันในเรื่องนี้ได้ครับ เพราะว่าวิดีโอเราก็อยากจะลองทำในหลาย ๆ แนว ทั้งตลก ดราม่า แอคชั่น ซึ่งเราก็มีวีดีโอที่เราอยากทำมากคือของ Rurouni Kenshin เราก็ศึกษา ดูคิวบู๊ ดูการแสดง ก็เป็นโปรเจคในฝันเก็บไว้ก่อนถ้ามีโอกาสได้ทำจริง ๆ ก็หวังว่าจะทำออกมาได้โอเคนะครับ 




28 | อยากให้ฝากช่องทางติดตามสำหรับคนที่สนใจอยากติดตามทั้งสองคนหน่อยนะคะ

Reizier | บุ๊คก่อนเลย ช่วงนี้ผลงานเยอะ (หัวเราะ)

Ryou | ก็ฝากเพจนะครับ Facebook Page:Ryou นะครับหรือว่า Facebook ก็ได้ พูดคุยกันได้แลกเปลี่ยนไอเดียกันได้แล้ว ก็อยากคุยกับหลาย ๆ คน อยากได้รับ feedback ในผลงานที่เราทำ เผื่อว่าสักวันหนึ่งเราจะได้ร่วมทำผลงานกับหลายคนกันนะครับ ส่วนใครที่อยากจะลงประกวดดู หรือว่ามีไอเดียดี ๆ ก็อยากให้ทำนะครับ รอดูผลงานของทุก ๆ คนอยู่นะครับ

Reizier | ของผมช่วงนี้ต้องบอกว่าไม่ค่อยได้มีผลงานด้านของการคอสเพลย์เท่าไหร่นัก ต้องขออภัยด้วยนะครับ จริง ๆ ผมยังคอสเพลย์อยู่แหละเพียงแต่ช่วงนี้จะเงียบ ๆ ไปสักหน่อยก็ฝากเพจ Reizier ไว้ละกันนะครับ และก็ฝากช่องทางการสตรีมของผมด้วย คือด้วยช่วงนี้มันล็อกดาวน์ ผมก็ได้เห็นหลาย ๆ คนเป็นสตรีมเมอร์กันหมดเลย เพื่อน ๆ ก็สตรีมอยู่ใน Facebook กันหมด ซึ่งผมไม่ได้อยู่ใน Facebook ของผมสตรีมชื่อใน Twitch จะเป็น https://www.twitch.tv/reizierpiiz  ใครอยากจะเข้ามาพูดคุยกับผมตอนที่ผมสตรีมก็มาเจอกันได้นะครับ แต่ช่วงนี้อาจจะไม่ได้สตรีมเท่าไหร่เพราะว่ามีภารกิจหลายอย่างที่ต้องทำ ก็จะกลับมาสตรีมอย่างแน่นอนและหวังว่าจะได้เจอกับทุกคนครับ

ส่วนช่องทางในการพูดคุยก็สามารถแอด Facebook ของผมมาได้แต่ว่าติดต่อมาก่อนก็ได้นะ ว่าแบบหนูอ่านบทสัมภาษณ์จาก Props&Ops มา หนูอยากคุยกับพี่ขออนุญาตแอดได้ไหมคะ โอเคครับ ยินดีครับแนะนำตัวมาให้รู้จักกันก่อน คือ บางทีเราไม่รู้ใครเป็นใครก็เลยไม่กล้ารับเหมือนกัน ก็ถ้าแนะนำตัวมาก่อนก็จะได้คุยกัน บางทีแอดมาแล้วไม่ได้พูดคุยกันเราก็ไม่กล้ารับน่ะ ก็เลยแอดมาก็มาคุยกันได้นะครับ

แล้วก็หวังว่าในเร็ว ๆ นี้จะมีผลงานให้ทุกคนติดตามกัน อาจจะต้องใช้เวลานิดนึง เอาเวลาไป … ลดน้ำหนักก่อน (หัวเราะ) ช่วงนี้น้ำหนักเพิ่มครับ รู้สึกว่าเราตัวแน่นเลย Work from home มันมีผลมาก พอตัวเรามันแบบ … ไม่ได้แล้วนะ … มันค่อนข้างจะเสียความมั่นใจเพราะว่าคอสเพลย์ รูปร่างมันสำคัญ ที่ไม่ค่อยได้เห็นผลงานก็ไม่ต้องแปลกใจคือ .. อ้วนขึ้นนะครับ 

แต่ว่าไม่เป็นไรครับช่วงนี้น้ำหนักเริ่มลดมาแล้วครับใกล้ ๆ จะรีบกลับมาครับ




29 | มีอะไรอยากฝากถึงผู้อ่านไหมคะ ?

Reizier | สิ่งที่อยากจะฝากถึงผู้อ่าน .. ก็หากคุณเป็นผู้อ่านที่ชอบในการคอสเพลย์ ขอให้คุณทำมันต่อไปเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่คุณรักและทำให้คุณมีความสุขครับ

ถ้าคุณเป็นสายประกวดหรือคุณอยากประกวดทำเลยครับเวลาไม่คอยคุณ สิ่งที่ทำให้คุณได้จากการคอสเพลย์คือคุณจะมีเพื่อนที่ดี ที่เข้าใจคุณครับ

Reizier และ Ryou ตัวแทนประเทศไทยประกวดคอสเพลย์ World Cosplay Summit 2021 Video Division
Reizier และ Ryou ตัวแทนประเทศไทยประกวดคอสเพลย์ World Cosplay Summit 2021 Video Division
Reizier และ Ryou ตัวแทนประเทศไทยประกวดคอสเพลย์ World Cosplay Summit 2021 Video Division
Photo Credit: World Cosplay Summit
Reizier และ Ryou ตัวแทนประเทศไทยประกวดคอสเพลย์ World Cosplay Summit 2021 Video Division
บทสัมภาษณ์ตัวแทนประเทศไทยผู้เข้าร่วมประกวด World Cosplay Summit 2021 ในรูปแบบใหม่ Video Division คุณ Reizier และ Ryou

เป็นอย่างไรบ้างคะกับบทสัมภาษณ์ครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณคุณ Reizier และ Ryou ที่สละเวลาการให้สัมภาษณ์นะคะ ถือเป็นเรื่องราว ประสบการณ์ดี ๆ เรียกได้เป็นเรื่องตั้งแต่เริ่มรู้จักกัน ช่วงตัดสินใจลงประกวดรอบคัดเลือกประเทศไทย จนมาถึงวินาทีที่ได้เป็นตัวแทนประเทศไทย World Cosplay Summit 2021 และช่วงเวลาสำคัญกับการนำผลงานเข้าร่วมการประกวดออนไลน์รอบสุดท้ายที่ประเทศญี่ปุ่นค่ะ ก็หวังว่าเพื่อน ๆ คอสเพลย์จะชอบบทสัมภาษณ์นี้นะคะ ถือเป็นบทสัมภาษณ์ที่ยาวจัดเต็ม และเต็มไปด้วยความรู้สึกดี ๆ ค่ะ

ทิ้งท้ายขอโพสต์คลิปวิดิโอการประกวดของทั้งสองทั้งในรอบคัดเลือกตัวแทนประเทศไทย และผลงานคลิปวิดีโอรอบสุดท้ายที่ส่งไปร่วมที่ประเทศญี่ปุ่นค่ะ

รอบภาคเหนือ (เชียงใหม่)
รอบคัดเลือกตัวแทนประเทศไทย
รอบ World Cosplay Summit 2021 Video Division

และเพื่อน ๆ สามารถย้อนไปอ่านรายงาน World Cosplay Summit 2021 Video Division ได้ที่ รายงานสรุป World Cosplay Summit 2021 Video Division

และใน Cosplus นี้ยังมีบทสัมภาษณ์ตัวแทน World Cosplay Summit ในอดีตอีกด้วย สามารถไปอ่านกันได้ใน Tag WCSThaiRepresent ได้นะคะ

Cosplus by Props&Ops
Interview by Xora

Special Thanks & Info
Reizier
Facebook Page : https://www.facebook.com/ReizierCosplayer
Facebook : https://www.facebook.com/frozenskydragon
Ryou
Facebook Page : http://www.facebook.com/Ryou-107118204764712
Facebook : https://www.facebook.com/kritboons3

World Cosplay Summit
Website : https://www.worldcosplaysummit.jp
G-Yu Creative
Website : http://gyucreative.com/
GalleryWorld Cosplay Summit Thailand 2020 รอบภูมิภาคคัดเลือกตัวแทนภาคเหนือ
GalleryWorld Cosplay Summit Thailand 2020 รอบชิงชนะเลิศ
Thai World Cosplay Summit ใน CosplayWiki

Special Thanks Photos Credit

World Cosplay Summit Facebook
Worldcosplaysummit.jp



Comment Here


เลือกช่องทางในการคอมเมนต์ด้านล่าง

  • Facebook(0)
  • WordPress(0)
  • Google Plus()

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.