จริงๆแล้ว เมื่อนึกย้อนไปแต่ต้นของสังคมคอสเพลย์ในประเทศไทยนั้น หลักๆที่หลายๆคนจะรู้จักก็คือ การคอสเพลย์จากการ์ตูน และเกม และอีกสิ่งหนึ่งที่ก็อยู่คู่กันมานานนั่นคือ การคอสเพลย์จาก J-Rock (เจร็อค) นั่นเอง
วันเวลาผ่านไป จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จากคนคอสเพลย์รุ่นหนึ่งที่ค่อยๆมีเส้นทางของแต่ละคนไปและการมีคนใหม่ๆที่รักในการคอสเพลย์เข้ามา งานเจร็อคกลับค่อยๆหายไป เจือจางหายไป ซึ่งดูจะเป็นคนละทางกับงานการ์ตูน และเกมที่มีมากจนแทบจะเรียกว่า มีกันทุกสัปดาห์
เกิดอะไรขึ้นกับ J-Rock Cosplay วันนี้เราจะมาลองวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆกัน
Cosplay J-Rock?
หากตัวละครการ์ตูนและเกมคือต้นแบบ คือสิ่งที่คนรักและชื่นชอบ และคือสิ่งที่ทำให้คนแต่งกายเลียนแบบ กลายมาเป็นคอสเพลย์การ์ตูน เกมนั้น การคอสเพลย์เจร็อคนั้นก็มีรูปแบบที่ไม่ต่างกันนั่นคือ ความรัก ความชื่นชอบ ต่อศิลปินวงดนตรีร๊อคญี่ปุ่น หรือ J-Rock ซึ่งย่อมาจาก Japanese Rock นั่นเอง
วงดนตรีสไตล์นี้นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงกว่าวงดนตรีทั่วๆไป นั่นคือมีการแต่งตัวอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งก็ค่อยๆพัฒนาจนมาเป็นที่เรียกว่า Visual Kei นั่นเอง
แต่ละวงนั้นมีเอกลักษณ์ การแต่งหน้า แต่งกาย โดดเด่น ถึงขนาดที่เรียกได้ว่า เพียงเห็นแค่ชุดก็รู้ว่าเป็นวงอะไรได้เลยทีเดียว หรืออาจจะเจาะไปถึงว่าเป็นชุดจากการเล่นเพลงไหนเลยทีเดียว (ซึ่งจะแตกต่างกับศิลปินทั่วๆไปที่อาจจะมีรูปลักษณ์แฟชั่น แต่ก็ไม่ได้มีรูปแบบเป็นพิเศษเฉพาะตัว)
วงดนตรีที่เป็นที่นิยมโดยมีชุดแต่งกายที่โดดเด่น เช่น วง X-Japan, Dir en grey, Malice Mizer, The Gazette ฯลฯ อีกมากตามแต่ที่แต่ละคนจะชื่นชอบ
เกิดอะไรขึ้นจึงทำให้งานคอสเพลย์ J-Rock จึงค่อยๆหายไป?
จริงๆแล้วการคอสเพลย์นั้น หากมองไปที่แก่นที่สุด ก็จะมีเรื่องของ “ต้นแบบ” .. เช่น คอสการ์ตูน ก็จะมีการ์ตูนเป็นต้นแบบ คอสเกมก็จะมีเกมเป็นต้นแบบ และแน่นอนว่าคอสเพลย์เจร็อคก็ย่อมมีวงเจร็อคเป็นต้นแบบนั่นเอง
และตรงนี้เป็นจุดเปรียบเทียบที่น่าสนใจ
ต้นแบบที่อยู่ในกระแสสังคมหลัก
หากเปรียบเทียบกันแล้ว ระหว่าง การ์ตูน เกม และ เจร็อคนั้น สองอย่างแรกดูจะเข้าถึงกับสังคมโดยรวมได้มากกว่า หรือจะมองว่าเป็นสิ่งที่อยู่ในกระแสทั่วๆไป
เราเห็นการ์ตูนฉายในช่องต่างๆของทีวีตั้งแต่เด็ก เราหลายๆคนเห็นร้านขายหนังสือการ์ตูนหน้าโรงเรียน หลายๆคนแม้ไม่ได้ติดการ์ตูน แต่ก็รู้จักว่าโดราเอมอนคืออะไร ชินจังคืออะไร เราเคยเล่นเกมอะไรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมาริโอ้ จนมาถึงยุค XBox 360 หรืออาจจะเป็นเกมออนไลน์อย่าง Ragnarok Online
นั่นย่อมทำให้หลายๆคนที่ได้ผ่านสิ่งเหล่านี้ได้ซึมซับมาโดยตลอด และได้ต่อยอดมาเป็นการชื่นชอบต่อการ์ตูนและเกม
แต่สำหรับเจร็อคนั้น เป็นอะไรที่ไม่ได้อยู่ในกระแสหลักของสังคมทั่วไปนัก เราไม่ได้เห็น MV หรือเราไม่ได้ยินเพลงเจร็อคตามร้านทั่วๆไปบ่อยนัก
ด้วยความที่เป็นสิ่งที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม ดังนั้น หากคนไหนไม่ได้สนใจเป็นพิเศษและลองที่จะค้นหา ก็ยากที่เจร็อคจะซึมซับเข้าสู่คนทั่วๆไป
หากใน 100 คนที่ได้บังเอิญอ่านการ์ตูน และมี 60 คนจากนั้นที่ตัดสินใจที่จะอ่านต่อ และก็อาจจะมีสัก 30 คนที่สนใจและแสดงออกมาเป็นคอสเพลย์ อาจจะมีเพียง 40 คนที่ได้ฟังเจร็อคและอาจจะมีเพียง 24 คนที่ยังสนใจและชื่นชอบจริงๆ และก็อาจจะมีเพียง 6 คนที่ได้แสดงออกมาเป็นการคอสเพลย์
ดั้งนั้น หากมองตรงนี้ ก็จะเห็นได้ว่า ปัจจัยนี้ การจะมีคนคอสเพลย์การ์ตูน เกมต่างๆนั้น ย่อมมีโอกาสสูงกว่ามากนั่นเอง
ปริมาณต้นแบบที่ออกมา
ทั้งนี้ทั้งนั้น คนที่ชอบการ์ตูน เกม นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องชอบทุกเรื่องที่มีออกมา แต่ว่าในแต่ละปีนั้น การ์ตูน เกมนั้น ออกมาเยอะมาก แทบจะเรียกว่าเป็นหลักร้อย หลักพัน เลยทีเดียว หากสมมุติปีๆหนึ่งมีการ์ตูนออกมาใหม่ 50 เรื่อง แค่มีคนชอบสัก 10 เรื่องก็มากพอที่จะคอสกันหลากหลายมากมาย เพราะแต่ละเรื่องก็จะมีตัวละครต่างๆอีกมาก
จะเห็นได้ว่าปริมาณของการ์ตูน เกมนั้นออกมาเยอะมาก ยังไงๆเสียในปีนึงนั้น ก็ต้องมีเรื่องสักเรื่องที่คน นิยมคอสเพลย์แน่นอน
แน่นอนว่า รูปแบบนี้ก็เป็นเช่นกัน คนเจร็อคก็ไม่ได้จำเป็นว่าต้องรักและชื่นชอบในทุกๆวงที่เป็นเจร็อคแต่ทว่าจำนวนวงศิลปิน นั้นมีไม่มากเท่ากับการ์ตูนใหม่ๆที่ออกมา รวมไปถึงว่าวงๆหนึ่งนั้น ก็ไม่ได้แปลว่าจะมีผลงานใหม่ๆออกมาบ่อยนัก และในบางครั้ง แม้จะเป็นวงที่ชื่นชอบ แต่ผลงานใหม่ๆบางครั้งก็ไม่ได้อาจจะทำให้ถึงกับชอบจนอยากคอสเพลย์เป็นพิเศษก็ได้
เมื่อรวมเพียงสองปัจจัยนี้ ความยากง่ายในการเข้าถึง + ปริมาณของต้นแบบ จะเห็นได้ว่า คนคอสเพลย์ที่จะเน้นไปที่เจร็อคนั้น อัตราของคนใหม่ๆที่สนใจ ย่อมน้อยกว่าคนใหม่ๆของการ์ตูน เกม ในอัตรที่แตกต่างกันมาก
แล้วในแง่มุมของการจัดงานละ?
แน่นอนว่า การ์ตูน เกมนั้นย่อมได้เปรียบตรงที่ว่า ก็มีค่ายสำนักพิมพ์ต่างๆที่จัดงานเป็นประจำอยู่แล้ว และก็มีอีกสังคมย่อยที่มีปริมาณของคนที่มากเช่นกัน คือเหล่าคนที่รักในการวาดที่มาออกบูทโดจินชิภายในงาน ในขณะที่เกมนั้นก็มีงานเกมมาเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าการจัดงานนั้นก็ถือเป็นการโปรโมทสินค้าที่ผู้จัดงานนั้นๆเป็นเจ้าของ อาจจะเพื่อให้มียอดขายเพิ่มขึ้น มีคนเล่นเกมมากขึ้น
แต่กับ เจร็อคนั้นไม่ได้อยู่ในกระแสสังคมทั่วไปนัก บริษัทที่มีคอนเสปเนื้อหาตรงหรือเกี่ยวข้องนั้นย่อมมีน้อยกว่า
จริงๆงานเจร็อคนั้นก็จะมีอีกสังคมที่เกี่ยวเนื่องกันอย่าง วง Cover Band ที่เล่นดนตรีภายในงาน แต่การจะจัดงานที่ต้องมีเครื่องดนตรี เวที และสถานที่ที่เหมาะสมนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะหาได้โดยง่ายอยู่เหมือนกัน
ในอีกทางหนึ่ง งานการ์ตูนนั้น ส่วนหนึ่งก็มีที่เป็นคนที่รักการ์ตูนจัดกันเอง เช่น งานโดจินชิต่างๆ งาน Only Event ต่างๆ แต่เอาเข้าจริงแล้ว ก็ถือว่าผู้จัดในลักษณะนี้เป็นส่วนที่ไม่มากนัก มีจำนวนคนไม่มากนักถ้าเทียบกับจำนวนคนในสังคม มีหลายงานที่ประสบความสำเร็จ และมีอีกหลายงานที่ไม่ประสบความสำเร็จ
และนั่นก็เป็นตัวอย่างเปรียบเทียบที่ดีว่า สำหรับคนการ์ตูนที่มีจำนวนมากกว่า ก็มีเพียงส่วนหนึ่งที่มีศักยภาพพอที่จะจัดงานขึ้นมาได้ ด้วยสัดส่วนที่คนคอสเพลย์เจร็อคมีไม่มากเท่า สัดส่วนของคนที่มีศักยภาพในการจัดย่อมน้อยลงไปอีก
เมื่อรวมหลายๆอย่างแล้ว ข้อจำกัดของการมีงานคอสเพลย์เจร็อคแบบเต็มรูปแบบจริงๆจังๆนั้น ดูจะมีมากเลยทีเดียว
การกำเนิดของงาน J-Style
เมื่อย้อนไปก่อนปี 2005 จะเห็นได้ว่า เส้นทางของคอสเพลย์การ์ตูนและJ-Rock นั้น เหมือนเดินกันคนละสาย เพราะความแตกต่างของรูปแบบ ทำให้งานของทั้งสองสายนี้ไม่ได้บรรจบกันมากเท่าไรนัก
จนเมื่อมาถึงปี 2005 ก็เริ่มมีงานที่เน้นใช้คำว่า “สไตล์ญี่ปุ่น” ขึ้นมา ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คืองาน J-Trends in Town ที่เกิดมาในปีนั้นนั่นเอง แน่นอนว่าทั้งการ์ตูน และ J-Rockต่างก็มาจากญี่ปุ่นเป็นหลัก งานในรูปแบบนี้จึงสามารถดึงเอาคอสเพลย์จากทั้งสองสายมาไว้ภายในงานเดียวกันได้นั่นเอง
หากมองว่า งานในรูปแบบนี้คืองานแบบผสม
งานหลักของการ์ตูน ก็ยังมีอยู่คือ งานโดจินชิ กลับกัน งานหลักของเจร็อคอย่างที่เคยจัดกันนั้นกลับค่อยๆหายไป
การหายไปของงานหลักนั้นไม่ได้ถึงขนาดว่าทำให้ไม่มีคนคอสเพลย์ เพียงแต่ก็เหมือนขาดเสบียงแห่งแรงบันดาลใจไปมากเลยทีเดียว
การที่คนการ์ตูนคอสไปงานโดยที่รายล้อมไปด้วย บูทโดจินชิ เวทีกิจกรรมการ์ตูน ย่อมสร้างความรู้สึกได้มาก กลับกัน หากคอสเพลย์ เจร็อคไปโดยที่รอบตัวแทบไม่มีใครคอสเจร็อคเลย ก็ย่อมทำให้เหมือนขาดความรู้สึกอินกับบรรยากาศรอบตัวไปพอสมควร
หนทางใดที่น่าจะเป็นไปได้กับงาน J-Rock ในอนาคต
จริงๆแล้ว ตัวผมเองเคยคิดเล่นๆว่า จำเป็นไหมที่รูปแบบของงานเจร็อคต้องเป็น “งานใน pub โดยมีวงดนตรี Cover Band เล่น” จริงที่ว่านี่คือรูปแบบดั้งเดิมของงานเจร็อคเลย และก็เป็นรูปแบบที่มีเสน่ห์ของเจร็อค
แต่หากมองไปที่งานการ์ตูนแล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าต้องมีบูทโดจินชิในทุกๆงาน
บางครั้งเวลาที่ได้เห็นกิจกรรมอย่าง Karaoke เพลงการ์ตูน ,เกมตอบคำถามการ์ตูน, เกมจิ๊กซอว์ต่างๆนานาในงานการ์ตูน ก็ อดคิดไม่ได้ว่า หากลองเปลี่ยนเป็นกิจกรรมอย่าง ประกวดร้อง Karaoke เพลงJ-Rock ละ? แล้วถ้าเป็นเกมคำถามอย่าง “วง Malice Mizer มีสมาชิกวงใครบ้าง” ละ? และถ้าเป็นเกมจิ๊กซอว์ เปิดภาพเป็นส่วนหนึ่งของวงๆหนึ่ง และให้ทายว่า วงอะไร ลุคจากเพลงอะไรละ?
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่ก็เป็นเพียงแนวคิดหนึ่งเพียงเท่านั้นเอง
จากบทความที่เขียนมานั้น ในอีกมุมหนึ่ง การที่เจร็อคเป็นอะไรที่เข้าถึงได้ยากกว่านั้น ก็อาจจะมองในแง่ดีว่า การที่คนจะมาสนใจนั้น ก็แสดงว่าคนๆนั้นต้องสนใจและชื่นชอบจริงๆในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะไม่ใช่เพียงแค่ว่าเห็นผ่านตาได้ง่ายๆแล้วจะสนใจ หากแต่ต้องค้นหา และอาจจะหมายถึงตั้งใจที่จะหาอีกด้วย
มาถึงตรงนี้ก็อยากจะเขียนว่า ด้วยก็เห็นเจร็อคอยู่คู่การคอสเพลย์มานาน แต่ก็เริ่มเห็นคนคอสเจร็อคน้อยลงไปในทุกขณะ ค่อยๆเห็นงานเจร็อคหายไปทุกขณะ งานหลายๆงานที่เคยเปิดโอกาสให้เจร็อคมาร่วมงาน ก็เริ่มเหลือน้อยลงไปเช่นกัน
Where are you J-Rock?
อาจจะหายหน้าหายตาไปบ้าง แต่อย่าให้ถึงกับจางหายไปเลย
Googgig
CosplayWiki: J-Rock Cosplay
Gallery: J-Rock Events
อืม..เห็นด้วยเลยค่ะ มองๆดูแล้วเหมือนจะมีเยอะเหมือนกันคนที่ชอบเจร๊อค แต่ว่า
คนที่จะคอสจริงๆนั้น ไม่เยอะเลย.. เป็นคนหนึ่งค่ะที่ตอนนี้เอาแต่คอสเจร๊อค X japan
นั่นเอง แล้วมีน้องๆมาถามว่า
”อยากคอส แนว เจร๊อค จะหาซื้อชุดได้ที่ไหน” ทำให้เกิดเป็นคำถามอีกว่า คอสแนวเจร๊อคที่ว่านั้น คืออะไร แล้วต้นแบบหละ??? แต่งสไตล์เจร๊อคก็ว่าไปอย่าง
นอกจากนั้น พอมานับดูจริงๆ จำนวนคนก็น้อยจริงๆ ค่ะ เพราะตัวคนพูดเองนี่ก็คอสทั้งการ์ตูน เกม และเจร๊อคค่ะ แล้วแต่งาน อีกอย่างเรื่องเพลงก็มีส่วนสำคัญเพราะว่าถ้าไม่ชอบจริงๆก็คงไม่คอสอยู่ดี หรือถ้ามาคอสเพราะว่าชอบแล้วจากไป นั่นก็เขาถึงได้ไม่เต็มที่ คนที่ชอบเจร๊อคเขาก็บอกว่าไม่กล้าคอส(อันนี้สำหรับพี่ๆบางคนที่เขาบอกนะคะ)บอกอยากเห็นน้องๆคอสมากกว่า..
จะเป็นคนหนึ่งที่ยังคอสอยู่นะคะ ^^”ถึงจะคอสแต่X japan วงเดียวก็ตาม แหะๆ เพราะรู้สึกสนุกดีค่ะ ที่ได้คอสตามศิลปินที่ชื่นชอบที่สุด^^
ผมเป็นคนหนึ่งที่ยังเเต่งเจร๊อคในงานคอสเพลตลอด เเละยังจะเเต่งต่อไปเพื่อให้มันมีตัวตน สเน่ย์อีกอย่างของ JROCK คือ การเเต่งหน้า ที่ประณีต สวยงาม น่ากลัว เเต่เท่ เเละผมก็จะเเต่งหน้าคอสเพลเจร๊อคต่อไป…………
เป็นอีกคนที่ชื่นชอบในเพลงแนว J-rock แต่ก็ไม่ได้คอส แต่ถ้าจะแต่งจะออกแนว J-rock Style มากกว่า จากที่อยู่ตรงจุดนี้มานาน (ชื่นชอบมานานและเข้าร่วมงานมีตติ้งของ เจ-ร็อค มาหลายงาน) เห็นได้อย่างชัดเจนว่า คนชอบเจร็อคน้อยลง คนที่คอส J-Rock ที่เราชื่นชอบ ก็พลอยหายไปด้วย วงคัพเวอร์น้อยลง งานจัดน้อยลง จนน่าน้อยใจ
แต่ในเวลานี้ ก็ต้องยอมรับความจริงค่ะ ว่ากระแสมันเป็นยังไงอยู่
คิดอีกแง่หนึ่ง อย่างการจัดงานมีตติ้ง ที่มีนานๆครั้ง ก็ให้ความรู้สึกตื่นเต้นดีเหมือนกันค่ะ ดูไม่พร่ำเพรื่อเกินไปเหมือนงานคอสอื่นๆ ไม่งั้น คงน่าเบื่อแน่ ^_^
และ …..การที่ไม่ได้อยู่ในกระแส ทำให้หลายอย่างๆ(จะเรียกว่าธรรมเนียมได้รึเปล่า)
ยังไม่เปลี่ยนแปลง (ยกเว้นจำนวนคนที่เปลี่ยนแปลง)
คนที่ชอบเจร็อค ก็ยังรักกันดี ไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน
แต่…….ถ้าซักวัน J-Rock ได้อยู่ในกระแส ก็น่าคิดเหมือนกันนะคะ ว่ามันจะเป็นอย่างไร
แต่ว่า ช่วงนี้ก็มีข่าวดีแล้วบ้าง ที่มีศิลปินเจร็อคจากญี่ปุ่นมาเล่นไลฟ์ที่บ้านเรา มาMeet and Greet บ้าง คิดว่า แวดวง J-rock ก็น่าจะมีข่าวดีบ้าง ไม่แห้งเหี่ยวเกินไปแล้วล่ะค่ะ
มายกมือ
เป็นคนหนึ่งที่ยังอยู่ ยังคอส(แต่นานๆที)
เห็นรูปประกอบแล้วนึกถึงบรรยายกาศเก่าๆ
ยกประโยคนี้มาพูดซ้ำก็แล้วกัน
“อาจจะหายหน้าหายตาไปบ้าง แต่อย่าให้ถึงกับจางหายไปเลย”
อีกคนที่ตามมายกมือว่า “ฉันยังอยู่”
10 กว่าปี (เชียวนะ) ที่อยู่ในวงการนี้มา
ได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่างที่ผ่านไป ผ่านมา
เราก็รอดูเด็ก ๆ รุ่นใหม่ ๆ อยู่นะ แต่ก็เหมือนร่อยหรอ ไปทุกที
แต่ไอ้ครั้นเราจะกลับไปใส่ ไปคอสเหมือนเมื่อก่อน
มันก็ไม่ค่อยจะไหวละมั้ง ด้วยหน้าที่การงาน เวลา และหลาย ๆ อย่าง
ทำตรงนี่้ มันต้องการความใส่ใจในทุกรายละเอียด
เวลาเราก็จะเอามาหลั่นล้าแบบเมื่อก่อนก็คงไม่ไหว
แต่ใจ น่ะ อยากคอสใจจะขาด อยากให็นน้องรุ่นใหม่ ๆ ด้วย
คอสจากใจที่รักศิลปิน ไม่ใช่คอสเพราะชุดสวย (แต่ทำได้ห่วยในกรณีบางคน)
พี่รุ่นเก่าๆ แก่ ๆ คนนี้ยังรออยู่นะจ๊ะ อยากจะยลความงามและความตั้งใจของน้อง ๆ หลายคน
จะคอยมองอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ว่าวงการ J-rock บ้านเรา จะไปทางไหนต่อ
เฮ้อ คิดถึงเพื่อน ๆ ทุกคนจัง มาถอนกันสักยกดีไหนเนี่ย (จั่งซี้ มันต้องถอน)
ผมก็เล่นดนตรีแนวนี้อยู่นะครับแต่ออกแนว เล่นดนตรีอนิเม ทุกเรื่องมากกว่าครับ แต่ไม่ได้แต่งตัวน่ะครับ
อีกคนค่ะที่ยังชอบและหลงไหลในเสียงเพลงของJrock
พูดภึงจำนวนคนที่คอสJrockนี่ เราเองพอมาคิดๆดู
พวกJrockแต่ละคนนี่ เรารู้จักแทบจะหมดทุกคน ขั้นที่แบบว่าจำชื่อกันได้ทุกคนเลยทีเดียว
เพราะส่วนใหญ่ก็มีแต่หน้าเดิมๆ ไม่ค่อยมีใครเข้ามาใหม่เลย
และสังคมรวมส่วนใหญ่ชอบมองJrockในแง่ลบ ซึ่งตรงนั้นไม่ชอบเอามากๆ><
และยิ่งกระแสในตอนนี้ K-popกำลังมาคลอบคลุม
ทำให้Jrockไม่ค่อยอยู่ในสายตาคนทั่วไปTT^TT (เสียใจ555+)
แต่ตัวโอยเองนั้น ก็ไม่ค่อยได้ไปงานคอสบ่อยนัก ส่วนใหญ่จะไปเจเทรนจริงๆแหละค่ะ
จริงแหละที่บอกว่า ไม่กล้าคอสJrockในงานที่ไม่มีบรรยากาศ555+
มันรู้สึกหวิวๆเขิลๆอ่ะนะ
แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ อาโอย อีกคนล่ะที่จะไม่ทิ้งJrockอย่างเด็ดขาด
โดยเฉพาะ The GazettE 555+
เจเทรนRock loverนี้ รู้สึกดีมากเลยค่ะที่จัดแบบrock lover
งานนี้ก็จะไปคอสJ-rockค่ะ คอสวงThe GazettE[AOI]
อิอิ
อ่านแล้วแทบอยากร้องไห้เลยหละครับ
ในฐานะที่ผมเคยทำ cover band มาก่อนในสมัยที่ J-Rock ยังรุ่งเรืองอยู่นั้น
มันทำให้ผมนึกถึงภาพเก่าๆ ที่ทุกๆ คนยังมารวมตัวกัน ด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน
เป็นเพราะปัจจัยทางด้านสังคมที่ทำให้ J-Rock band และ Cosplay
ห่างหายจนเกือบจะดับสูญอยู่แล้ว
ผมเห็นด้วยนะครับที่จะมีการปฎิวัติรูปแบบของงาน เพราะทุกวันนี้ถ้าไม่มีเปลี่ยน มันก็จะไม่เกิด
ถ้าคุณกุ๊กกิ๊กอยากจะจัดสักงาน ผมยินดีไปเล่นให้ฟรีๆ แถมเป็นสต๊าฟด้วยหละเออ *0*