การประกวดคอสเพลย์ระดับนานาชาติ World Cosplay Summit 2023 ของปีนี้ได้จบลงไปแล้วเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่เหล่าตัวแทนแต่ละประเทศจัดเต็มกันอย่างเต็มที่กับการประกวด World Cosplay Summit Championship ที่นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น โดยวันนี้เลยจะขอนำบทสัมภาษณ์สองตัวแทนประเทศไทยที่เข้าร่วมกิจกรรมและการแข่งขันในปีนี้คุณ Katto (เก่ง) และ Ryou (แว่น) ค่ะ
ซึ่งนอกจากจะไปเข้าร่วมที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังรวมไปถึงงาน Gamer8 ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียอีกด้วย เรียกได้ว่าทั้งสองได้รับประสบการณ์มากมายในการเป็นตัวแทนในปีนี้ค่ะ
จริง ๆ แล้วทั้งสองถือว่าเป็นอดีตตัวแทนประเทศไทย World Cosplay Summit กันมาทั้งคู่ เพียงแค่เป็นตัวแทนคนละปีค่ะ
คุณ Katto นั้น เคยคว้ารางวัลการประกวดมาหลากหลายเวที รวมไปชนะเลิศการประกวดระดับนานาชาติ GICOF ณ ปนะเทศเกาหลีใต้เมื่อปี 2017 และเป็นตัวแทนประเทศไทยเมื่อปี 2018 ร่วมกับคุณ Jasper Z โดยในครั้งนั้น ทั้งสองสามารถไปคว้ารางวัลที่ 3 จากประเทศญี่ปุ่นมาได้ค่ะ
Photo CR. – worldcosplaysummit.jp
ในขณะที่คุณ Ryou นั้น เคยเป็นตัวแทนประเทศไทยเมื่อปี 2020/2021 ร่วมกับคุณ Reizier แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 รุนแรงในขณะนั้น จึงงดการจัดแบบส่งตัวแทนไปประเทศญี่ปุ่น เปลี่ยนเป็นแบบวิดีโอเท่านั้นแทน การเป็นตัวแทนในปีนี้จึงถือเป็นครั้งแรกของคุณ Ryou ที่ได้ไปประกวด WCS แบบขึ้นเวทีที่นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่นค่ะ
ถือว่าเราได้รู้จักทั้ง 2 อย่างคร่าว ๆ กันแล้ว เรามาทำความรู้จักและอ่านเรื่องราว ประสบการณ์ต่าง ๆ จากทั้ง 2 กันค่ะ
Katto และ Ryou ตัวแทนประเทศไทยประกวดคอสเพลย์ระดับโลก World Cosplay Summit 2023
01 | อยากให้ทั้งสองแนะนำตัวกับผู้อ่านหน่อยนะคะ
▐ Katto : สวัสดีครับ ผม Katto จาก Katto cosplay ครับ ผม เอ่อ…ยังอยู่ร้านชาบูอยู่เลย แหะ ๆ ..(หัวเราะ)
▐ Ryou : สวัสดีครับ ผม Ryou ครับ ตอนนี้อยู่บ้านนะครับ ไม่ได้อยู่ร้านชาบูเพราะไม่มีตังค์กินนะครับ (เสียงกลั้วหัวเราะ) เพราะฉะนั้นจ้างได้นะครับ ที่เพจ Ryou Cosplay หรือว่าเป็นที่เฟสบุ๊ค Kritboon Samorwong ก็ได้เลยนะครับ
02 | ทั้งสองคนรู้จักกันที่ร้านชาบูร้านไหน เอ๊ย รู้จักกันได้ยังไงคะ
▐ Katto : ถ้าผมเจอน้องแว่นครั้งแรก….จริง ๆ เรา…นั่นสิ…
▐ Ryou : จริง ๆ เราเป็นเพื่อน ๆ กันมา…
▐ Katto : ใช่ครับ เป็นเพื่อนของเพื่อนกันอีกทีหนึ่ง
03 | ทำไมทั้งสองคนถึงตัดสินใจมาลงประกวดด้วยกันคะ?
▐ Katto : ด้วยความที่ทำงานที่เดียวกัน แล้วก็เจอหน้ากันบ่อย ก็เลยคิดว่า เอ้อ..ถ้าลงประกวดน่าจะสะดวกด้วยครับ
▐ Ryou : ใช่ฮะ แล้วก็มีเทสต์การดูการอ่านการ์ตูนใกล้เคียงกันด้วยครับ
▐ Katto : ใช่ฮะ เรื่องนี้สำคัญเลย
04 | ที่มาของการเลือกใช้โชว์นี้ในการประกวด ?
▐ Ryou : จริง ๆ One Piece เป็นเรื่องที่เราติดตามกันมานานมากแล้วครับ แล้วก็..ปกติเราจะมีการพูดคุยถึงการ์ตูนเรื่องนี้ในทุกอาทิตย์อยู่แล้ว พอเราติดตาม เราตามอ่าน เราก็จะ..เอ้ย อาทิตย์นี้เป็นยังไงบ้าง ตอนนี้ตอนใหม่เป็นยังไงนะ อาทิตย์หน้าจะเป็นยังไง อะไรอย่างเนี้ยครับ
▐ Katto : แล้วก็อ่านตอนล่าสุดหรือยัง เป็นอย่างนี้ ๆ นะ
▐ Ryou : อ่านช่องทางไหน อะไรอย่างเนี้ยครับ
▐ Katto : เราก็ติดตามกันทุกอาทิตย์อยู่แล้วด้วยครับ
05 | ทำไมถึงเลือกเนื้อเรื่องส่วนนี้ของตัวมังงะมาทำเป็นโชว์หรือคะ ?
▐ Ryou : เพราะว่าตอนที่เราตัดสินใจที่จะทำ มันเป็นช่วงที่ในการ์ตูนกำลังจะเข้าช่วงสุดท้ายของภาคนี้พอดีครับ แล้วก็มันมีเรื่องของอรรถรสหลาย ๆ อย่างที่เรื่องมันบิ้วให้เราตั้งแต่วันที่เราเริ่มอ่าน..ทั้งเรื่องของคาแรคเตอร์ ร่างใหม่ เรื่องของตัวร้าย ที่เรารู้สึกว่าเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างทรงพลัง แล้วก็สอดคล้องกับที่ว่าทาง World Cosplay Summit เริ่มปลดล็อคการแสดงจากเรื่องของ Jump สามารถเอามาลงประกวดได้แล้ว
พอเรื่องที่เป็น Jump ที่เป็น Shueisha แสดงได้ แล้วเราก็คิดว่าเราอยากเอาเรื่องที่เรารักมาลงประกวด แล้วก็ทำโชว์ให้ออกมาให้อย่างที่เราอ่านที่มา ประมาณนั้นครับ
▐ Katto : ก็ตามที่คิดไว้นะครับ คือคิดว่าถ้าทำออกมาได้ก็น่าจะโอเคด้วย แล้วมันเป็นเรื่องที่เราอยากจะแสดงด้วย อยากจะลองดูด้วยว่ามันจะไปได้ถึงประมาณไหนครับ
06 | แล้วเลือกคาแรคเตอร์กันยังไงคะ ว่าทำไมใครเหมาะสมกับตัวละครนี้ ?
▐ Katto : ส่วนสูงไงครับ (หัวเราะร่วน) ด้วยความที่น้องแว่นสูงกว่าผม น้องน่าจะสูงประมาณ 175 เซนติเมตรอะครับ แล้วผมก็…..ตัวเท่านี้ ก็เลยคิดว่าถ้าจะให้ผมไปใส่ไคโด ไคโดอาจจะดูตัวไม่ใหญ่พอที่จะดูมีพาวเวอร์ ดูน่าเกรงขามเท่ากับน้องแว่นใส่
▐ Ryou : แล้วก็..พี่คัตโตะเค้ามีจุดเด่นเรื่องของการแสดงน่ะครับ เรื่องของ Performance มากกว่า การขยับตัว การตีลังกา ผมก็เลยคิดว่าเขาน่าจะเป็นลูฟี่ที่ดีกว่าบนเวที
▐ Katto : น้องแว่นก็แต่งไคโดออกมาได้ดูมีพลังนะครับ
▐ Cosplus : ใช่ค่ะ แสดงสีหน้าได้ดีมากเลย
▐ Katto : ใช่ครับ
07 | การที่ทั้งสองคนเคยมีประสบการณ์กับเวที WCS มาแล้วทั้งคู่ มีส่วนช่วยในการประกวดครั้งนี้มั้ยคะ ?
▐ Ryou : ผมว่ามันเป็นเรื่องของกฎแล้วก็ข้อบังคับหลาย ๆ อย่างนะครับ ที่เราจะรู้อยู่แล้วว่าขนาดของฉาก เรื่องของวิธีการใช้เวลา หรือว่าการใช้ข้อดีข้อด้อย เรื่องของสเตจอะไรอย่างนี้ ว่าเราวางหุ่นแบบไหนยังไง แต่ว่าสุดท้ายมันก็เป็นเรื่องที่ว่าเราก็ยังต้องพัฒนากันต่อไป ไม่ว่าจะขึ้นไปบนเวทีกี่ครั้ง เราก็ยังคิดว่ามันก็เกิดการพัฒนาใหม่ ๆ ได้เสมอ
▐ Katto : ผมรู้สึกว่าในการลงแต่ละครั้ง ในแต่ละปี ความรู้สึกค่อนข้างจะเปลี่ยนไปเรื่อย ก็จะรู้สึกว่ามีประสบการณ์ที่ใหม่ ๆ มาเรื่อย ๆ มีความไม่ซ้ำกันในแต่ละปี อย่างเช่น ตอนนี้สามารถที่จะเอาเรื่องจากจัมพ์มาลงได้ แต่ถ้าจะเอาจากประสบการณ์เก่าที่เอามาใช้ ก็จะเป็นรูปแบบการเตรียมตัวซะมากกว่า ว่าต้องทำอะไรบ้าง เช่น น้ำหนักไม่เกินเท่านี้ ส่วนสูงของฉากไม่เกินเท่านี้ แล้วก็ในเรื่องของเวลา การใช้ไฟ การเตรียมเอกสาร เป็นเรื่องของการเตรียมตัวมากกว่า
ถ้าในเรื่องของอีเวนต์อื่น ๆ เวลาไปออกที่อีเวนต์หรือว่าสิ่งที่เราต้องเจอน่ะครับ จะไม่ค่อยซ้ำกันเลย แต่ละปีก็จะมีกิจกรรมที่ค่อนข้างจะแตกต่างกันครับ
08 | ในการทำโชว์อันเนี้ยค่ะ อะไรที่ทั้งคู่คิดว่าเป็นอุปสรรคในการทำโชว์ในความคิดของแต่ละคนคะ ?
▐ Katto : ถ้าของผม ตัวลูฟี่อะครับ น่าจะเป็นในเรื่องของร่างเกียร์ห้า ที่ในการทำวิกค่อนข้างที่จะท้าทาย เพราะว่าเราคุยกันว่าเราอยากให้ตัววิกของลูฟี่มีไฟติด แล้วก็ควันข้างหลังมีไฟติด ก็ต้องมานั่งคิดกันว่าเราจะใช้วัสดุอะไรเทคนิคแบบไหนในการทำวิกและควันข้างหลังครับ
▐ Ryou : ในส่วนของผม ด้วยความที่ขนาดชุดของไคโดมีขนาดใหญ่ เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถที่จะหยิบจับสิ่งของได้ ทั้งขึ้นและลงสเตจน่ะครับ การจับฉากหรือว่าการจับสิ่งของเนี่ย ทำให้เราไม่สามารถทำได้ ทำให้ภาระตกไปอยู่กับพี่เก่ง ที่จำเป็นที่จะต้องจัดการกับเรื่องการขึ้นลงเวที ฉาก อะไรอย่างเนี้ยน่ะครับ ก็เลยเป็นเรื่องที่เราต้องวางแผน ว่าใครควรต้องทำอะไรยังไงบ้าง
▐ Katto : ใช่ ๆ ในเรื่องนี้เราก็ตกลงกันตั้งแต่ก่อนเราขึ้นเวทีแล้วว่า ในเมื่อตัวละครเราเป็นแบบนี้ เราจะต้องแจงกันว่า เราจะต้องทำอะไรกันบ้าง ตอนอยู่ตรงที่หน้าสเตจก็ดี หรือว่าคอยซัพพอร์ตอื่นๆอะไรอย่างเงี้ย ในขณะที่ตัวน้องแว่นใส่ไคโดไปแล้วเรียบร้อยครับ
09 | ตอนที่ประกาศผลมาว่าทีมเราได้เป็นตัวแทนประเทศไทย รู้สึกอย่างไรบ้างคะ ?
▐ Katto : อื้อหือ ก็ตื่นเต้นครับ…ดีใจ รู้สึกว่า…เอ้อ…ในที่สุดก็ทำได้แล้ว น้องแว่นนี่น่าจะอินสุดครับ มีใส่อินเนอร์ (หัวเราะ)
▐ Ryou : เราก็ดีใจครับ เพราะว่าจริง ๆ วันนั้น หลาย ๆ ทีมเค้าทำกันเต็มที่มาก ๆ ทีมไหนจะได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ก็คิดว่ามันเป็นโอกาสที่เราได้รับในช่วงนึงแล้วก็ทำให้ดีที่สุดครับผม
10 | หลังจากที่ได้เป็นตัวแทนแล้ว ได้มีการเตรียมตัวสำหรับที่จะไปเป็นตัวแทนต่อไปยังไงบ้างคะ ?
▐ Ryou : เตรียมตัวหลายอย่างเลยครับ ทั้งในเรื่องของเอกสาร มีที่เราต้องมาทำข้อมูลเป็นภาษาญี่ปุ่น แล้วก็การปรับเปลี่ยนเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่าง ๆ ที่จะต้องเปลี่ยนภาษา เพื่อให้เข้ากับที่เราคิดไว้สำหรับการแสดงที่ญี่ปุ่น ทุกทีมต้องทำพรีเซนต์ แต่ว่าก็ไม่ได้เป็นพรีเซนต์แบบเป็นวิดีโอหรือว่าเป็นอะไรมากมายขนาดนั้น แต่เขาก็จะมีแบบฟอร์มที่เอามาให้กรอก เราก็กรอกว่าจุดที่เราทำ จุดนี้เราทำอะไรยังไง แบบนี้ครับ
▐ Cosplus : กรอกตั้งแต่ตอนที่อยู่ที่ไทยเลยหรือคะหรือว่าไปกรอกที่นู่น
▐ Katto : กรอกที่ไทยครับ
▐ Ryou :พอหลังจากที่จบการประกวดที่ไทย เขาก็จะให้แบบฟอร์มนี้มา เพื่อที่เราจะได้ส่งแบบฟอร์มนี้ให้ทางญี่ปุ่น
▐ Katto : ที่ต้องเตรียมตัวหลัก ๆ ก็เป็นส่วนเอกสารที่น้องแว่นบอกไป ค่อนข้างทำเอกสารเยอะพอสมควร ทั้งในเรื่องของการแจงว่าน้ำหนักเราเท่าไหร่ อันนี้ทำอะไร บนเวทีเรามีอะไรบ้าง แล้วก็ต้องทำสไลด์ เพื่อที่จะไปให้คณะกรรมการดูในวัน costume judging
แล้วก็น้องแว่นก็เสนอเรื่องของการเปลี่ยน CG ด้านหลัง ว่าเราอยากจะทำให้มันเป็นคอมมิคดู ใส่ตัวอักษรแทนที่จะเป็นซับไตเติ้ลเปล่า ๆ ส่วนแบบฟอร์มที่กรอกต้องบอกว่าที่ญี่ปุ่นกับที่ซาอุฯ จะค่อนข้างต่างกันนิดนึง ของญี่ปุ่นเขาจะมีให้กรอกเลย แต่ถ้าเป็นซาอุ ฯ เขาก็จะไม่ได้กำหนดว่าจะต้องทำมา แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะพรีเซ็นต์ยังไง ซึ่งบางทีมก็อาจจะใช้เป็นไอแพด สไลด์เอาว่า อ้ะ…ทำแบบนี้ ๆ หรือบางทีมเค้าก็ปรินท์มาแล้วแปะใส่บอร์ด แล้วก็พรีเซ้นเดี๋ยวนั้น
ซึ่งทางเราก็ไม่ได้ทำ (หัวเราะ) เพราะว่าเวลาเตรียมตัวค่อนข้างน้อยด้วย แล้วจะใช้ฟอร์มเดิมมันก็น่าจะไม่โอเคเท่าไหร่ เพราะว่าที่ซาอุฯ ห้องของคณะกรรมการเขาก็ไม่ได้มีอุปกรณ์เครื่องมืออะไรด้วยที่จะเหมือนกับที่ญี่ปุ่น ตรงนี้ก็ค่อนข้างแตกต่างกัน
แล้วก็ฝากไว้ถึงคนที่ไปในปีหน้าและปีต่อ ๆ ไปด้วยว่า ในการทำแต่ละขั้นตอนเราควรถ่ายรูปไว้ เพราะว่าเราได้ใช้อย่างแน่นอน อย่างตอนที่กรอกเอกสารก่อนที่จะไปญี่ปุ่น เค้าจะมีเหมือนกับพาวเวอร์พอยน์ตรงนี้ แล้วคุณก็ต้องเอาขั้นตอนทั้งหมดที่คุณมีพรีเซ็นต์ให้กับทางเค้าครับ
11 | ทำโชว์กันมาขนาดนี้แล้วคิดว่าคงต้องมีความภูมิใจกับผลงานทุกส่วนแน่ ๆ แต่ว่ามีส่วนไหนของชุดหรือโชว์ที่เราภูมิใจเป็นพิเศษหรืออยากเล่าให้เพื่อน ๆ ผู้อ่านฟังมั้ยคะ ?
▐ Ryou : น่าจะเป็นชุดของไคโดแหละครับ เพราะว่าเอาจริง ๆ มันเป็นชุดขนาดใหญ่ครั้งแรกที่เราได้ลงมือทำจริง ๆ ค่อนข้างใช้เวลาลงไปเยอะครับ แทบจะกินนอนกับชุดนี้มา…พักนึงเลย ประมาณหกถึงเจ็ดเดือน
▐ Cosplus : ส่วนไหนของชุดนี้ที่ยากสุดคะ ?
▐ Ryou : น่าจะเป็นเรื่องของการขึ้นทรงกล้ามเนื้อครับ ด้วยมันเป็นเรื่องใหม่ที่เราเพิ่งลองทำ ในการสร้างเหมือนคอสตูมสูททั้งตัว เราทำยังไงให้มันขนาดใหญ่ แล้วเรายังขยับมือได้ ขยับแขนได้ เพื่อเอาไว้สำหรับบนเวที ในการตี ในการขยับต่าง ๆ ครับ
▐ Cosplus : น้ำหนักของชุดประมาณสักกี่กิโลได้คะ ?
▐ Ryou : จริง ๆ ในส่วนของไคโดไม่ได้น้ำหนักเยอะมากนะครับ ถ้ารวมตั้งแต่หัวจรดเท้า อาจจะไม่เกิน20 กิโลครับ
▐ Cosplus : ก็มีน้ำหนักอยู่นะคะ แล้วตอนใส่คือ มีเรามีฝึกร่างกายไหมคะ ? เพื่อให้เราเคลื่อนไหวกับชุดได้สะดวก
▐ Ryou : มีบ้างครับ มีเรื่องของการฝึกเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ว่าเวลาส่วนใหญ่ก็หมดไปกับการทำชุดมากกว่า แล้วก็ด้วยเนื้อเรื่องด้วยอะไรด้วย ในตอนนั้นมันเป็นสิ่งที่เราแบบ…
▐ Katto : อินมาก ๆ
▐ Ryou : ใช่ครับ เราอินกับบทนี้ เราก็พยายาม…อยู่กับมันมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่เป็นปีของพี่เทมส์พี่เซ่น่ะครับ เราเริ่มวางบท เริ่มวางโครงมาตั้งแต่กลับมาจากญี่ปุ่น (ปีที่แล้วไปในฐานนะศิษย์เก่า) แล้วก็คิดว่าเราอยากใช้เวลากับมันเพื่อให้ออกดีที่สุด เต็มที่กับมันที่สุดครับ แต่เอาจริง ๆ ก็ยังอยากได้เวลามากกว่านี้อีก แต่นี่ก็คือทำเต็มที่ เท่าที่เราจะทำได้ในจุดนี้แล้วครับ
▐ Katto : ผมก็ภูมิใจกับการแสดงชุดนี้ แล้วก็โชว์ทั้งหมดแต่ว่าถ้าเกิดว่าจะให้ยกในจุดที่ชอบที่สุด น่าจะเป็นเทคนิคในการทำดีเทลชุด ที่เราก็หารีเสิร์ช หาข้อมูลว่าเราจะสามารถทำดีเทลชุดให้มันดูผ้าขาดอะไรยังไง ทำให้ดูมีดาเมจ ยังไงให้มันดูสมจริงที่สุดครับ แล้วก็…หมวกฟาง ซึ่งตอนที่อยู่ญี่ปุ่น ก็พรีเซนต์เขาว่า นี่หมวกนี้เราไม่ได้เป็นหมวกฟางจริง ๆ เราทำมาจากโฟมยาง ทุกคนก็ค่อนข้างที่จะเซอร์ไพรส์กันพอสมควร แล้วก็ในเรื่องของการแสดงทั้งหมด ผมรู้สึกว่า..เราโอเค เราชอบโชว์มากเลย ทำออกมาแล้วมันดูค่อนข้างที่จะเข้าใจง่าย คนดูดูแล้วสนุกไปกับมัน ตรงนี้ครับที่รู้สึกว่าเป็นจุดที่เราภูมิใจตรงนี้มากครับ
12 | มีกิจกรรมตรงไหนไหมคะ ? ที่ไปแล้วเราประทับใจเป็นพิเศษ
▐ Ryou : จริง ๆ เราก็ค่อนข้างน่าประทับใจในทุกส่วน
▐ Katto : (พูดตามขึ้นมา) น่าประทับใจในทุกตรงเลยครับ
▐ Ryou : เพราะว่าแต่ละส่วนก็จะแตกต่างกันไป ทั้งเรื่องของเวทีบนสเตจ หรือว่าการที่เราเดินพาเหรด
▐ Katto : ใช่ ๆ
▐ Ryou : มันจะคนละอารมณ์กันครับ
▐ Katto : แต่ถ้าให้ผมชอบที่สุด น่าจะเป็นวันที่พบกับผู้ว่า เรารู้สึกว่า ..เซอร์ไพรส์กับตัวผู้ว่ามากเลยที่เค้าแต่งอินุยาฉะมา ดูแล้วผู้ว่าเขาค่อนข้างที่จะสนใจในเรื่องนี้จริง ๆ แล้วก็ใส่ใจที่จะเอ็นจอยกับพวกเรา
Credit : World Cosplay Summit Thailand
13 | แล้วในส่วนของการประกวด มีอะไรที่เราต้องทำบ้างคะ ? อยากให้เล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง
▐ Ryou : ด้วยปีนี้มีกันทั้งหมด 33 ทีม ก็จะค่อนข้างมีความวุ่นวายนิดนึงเพราะว่า…การตรวจชุดหรือว่าการขึ้นสเตจ การซ้อมเนี่ย มันจะค่อนข้างใช้เวลา เราจะต้องจัดเวลาเป็นช่วง ๆ เพื่อให้แต่ละทีมสามารถที่จะไปซ้อมและกลับมาตรวจชุด ประมาณว่าวันนี้เข้าตรวจชุดแล้ววันพรุ่งนี้ซ้อม อะไรแบบนี้ครับ เพราะว่าตารางแต่ละทีมน่าจะไม่เหมือนกัน แต่ละทีมก็จะต้องเตรียมตัวแตกต่างกัน แล้วก็ทั้งเรื่องของการซ้อมกันเองด้วย เพราะว่าซ้อมบนสเตจจะได้กันแค่คนละ…กี่นาทีนะ ?
▐ Katto : น่าจะ 20 นาทีต่อทีม
▐ Ryou : เราจะซ้อมกี่ครั้งก็ได้ครับในช่วงเวลา 20 นาที
▐ Cosplus : ในเรื่องของไฟและแสงทางตัวแทนก็จะต้องไกด์เองใช่มั้ยคะ ?
▐ Katto : ใช่ครับ
▐ Ryou : ซึ่งไฟเนี่ยเราจะทำในเอกสารไปแล้ว แต่ว่ามันก็อาจจะมีเรื่องที่เข้าใจผิดพลาดกันบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องของการจัดการอีกทีนึง
▐ Katto : อย่างวันแรกเราไปพบปะผู้ว่า วันต่อมาด้วยความที่ว่ากรุ๊ปมันมีทั้งหมด 33 ทีม ก็จะแบ่งเป็นสองกรุ๊ป กรุ๊ปหนึ่งวันนี้ทำการซ้อมบนเวที ในระยะเวลา 20 นาทีนี้เราก็จะมีการแจงว่า เราจะใช้ไฟช่วงนี้ ใช้นี่ ๆ ๆ จะให้ออกมาเป็นยังไง เราก๋ก็สามารถที่จะซ้อม ตามที่น้องแว่นบอกว่าเราจะซ้อมเท่าไหร่ก็ได้ภายในระยะเวลา 20 นาทีนี้ เพราะว่าเขาค่อนข้างที่จะซีเรียสกับเรื่องเวลามาก เพราะว่าทีมมันเยอะมาก ๆ แล้วพอมาอีกวันหนึ่งกรุ๊ปที่ได้ซ้อมไปแล้ว คุณก็ต้องไปทำการตรวจชุดคอสตูมน่ะครับ ก็คือจะสลับกัน ทาง WCS ก็จะมีการวางแผนค่อนข้างที่จะแน่นพอสมควร
14 | แล้วในส่วนของการตรวจชุด รู้สึกตื่นเต้นมั้ยคะ ? หรือมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง ?
▐ Katto : (หัวเราะ) ผมคุยกับน้องแว่นไว้ว่า เอ้อ..เดี๋ยวตรงนี้เราจะพูดก่อน แล้วเราให้น้องแว่นพูดในส่วนของไคโดไปอะไรประมาณนี้ แล้วผมพูดไม่ออก (เสียงกลั้วหัวเราะ) ด้วยความที่ว่าผมไม่ค่อยมั่นใจเรื่องภาษาตัวเองอยู่แล้ว …พอเสร็จปุ๊บ ผมก็ Blank เพราะว่าเจอคณะกรรมการทั้งหมดประมาณสิบท่านที่นั่งรอฟังอยู่ แล้วทุกคนก็จ้องมาทางเราสองคน ผมก็ Blank ก็หันไปหาน้องแว่นแล้วบอกว่า ช่วยพูดหน่อยพูดไม่ได้แล้วก็ให้น้องแว่นพูดไป (หัวเราะ)
▐ Cosplus : แล้วตอนนั้นคุณแว่นรับไม้ต่อมายังไงคะ ?
▐ Ryou : ก็ค่อนข้างตื่นเต้นครับ แต่ด้วยเรารันบางอย่างเบื้องต้นมาแล้ว เราก็ยังพอถู ๆ ไถ ๆ ต่อไปได้
▐ Katto : น้องแว่นก็เลยรับหน้าอย่างเต็ม ๆ แล้วก็พรีเซนต์เต็ม ๆ ผมก็ได้แค่ยืนอึ้งเฉย ๆ (เสียงกลั้วหัวเราะ) เพิ่งจะได้มาพูดตอนหลัง ๆ นี่เอง
▐ Cosplus : กรรมการมีสอบถามอะไรเราบ้างมั้ยคะ หรือเป็นการพรีเซ็นต์อย่างเดียว
▐ Ryou : เค้าจะกำหนดเวลาให้เราพรีเซนต์ตัวเองก่อนครับ สิ่งที่เราทำ หลังจากนั้นก็จะเป็นเวลาที่กรรมการจะสอบถาม เขาจะเดินเข้ามาเพื่อตรวจชุดโดยตรงครับ
▐ Katto : เข้ามาใกล้ ๆ มาดูว่าตรงนี้ ส่วนนี้เป็นยังไง กรรมการค่อนข้างที่จะใจดีครับ เขาไม่ได้โหดอะไรก็คือจะเข้ามาคุย แล้วก็มีคำถาม เช่น ว่าส่วนนี้ทำยังไง อย่างกางเกงของลูฟี่ ที่ใช้เวลาไม่นานในการเปลี่ยนชุดใช้วิธียังไง
จริง ๆ ในเรื่องของขั้นตอน ผมว่าเรื่องพรีเซนต์เป็นส่วนสำคัญมาก ถ้าเราเข้าไปแล้วเรายืนนิ่ง ๆ เฉย ๆ แล้วรอให้กรรมการมาดูเอง เค้าก็จะไม่เข้าใจว่าเราทำอะไรอยู่ เราทำด้วยอะไร ภาษาก็เป็นส่วนสำคัญ แล้วก็การรู้ว่าตัวเราควรจะต้องทำอะไรบ้างตอนอยู่ ณ จุดนั้น อันนี้รวมถึงที่ไทยด้วยเลย แต่ว่าที่ไทยค่อนข้างจะเร็ว ง่ายหน่อยเพราะว่าเราไม่ได้ติดขัดเรื่องภาษาอะไร แล้วเราก็รู้ว่าเราทำอะไรมาบ้าง
15 | ทั้งสองคนได้ดูทีมประกวดทีมอื่นบ้างไหมคะ ?
▐ Ryou : เวลาค่อนข้างน้อยอยู่ครับ แต่ก็มีได้ดูบ้างบางทีม แต่ว่าดูไม่ได้ครบทุกทีม
▐ Katto : ใช่ครับ
▐ Ryou : ด้วยเราอยู่ด้านหลังสเตจ เราไม่ได้ออกไปด้านหน้า
▐ Katto : ใช่ แต่ว่าทาง WCS เขาก็จะมีทีวีฉายให้อยู่ แต่ว่าถึงตรงนั้น พอทุกอย่างเสร็จปุ๊บ เราก็จัดการเคลียร์ฉาก เคลียร์อะไรกันไปครับ ไม่ได้ดูตรงนั้นด้วย
▐ Cosplus : มีทีมที่ได้ดู มีประทับใจทีมไหนมั้ยคะ ?
▐ Katto : ญี่ปุ่นครับ! (พูดทันที) ผมก็น้องแว่นคุยกันเลย บอกว่าญี่ปุ่น
▐ Ryou : ใช่ครับ ชอบทีมญี่ปุ่นมาก My hero academia แอคติ้งหรือว่า…
▐ Katto : ใช่…การวางไฟก็ดี
▐ Ryou : แล้วก็ลัทเวียร์ผมก็ชอบครับ
▐ Katto : ใช่ ๆ ลัทเวียร์มาด้วยแบบ..ของน้อยมาก ของบนเวทีแทบจะไม่มีเลย แต่เค้าสามารถเอาคนทั้งฮอลล์อยู่ได้
▐ Ryou : เค้าใช้ของที่เขามีได้เต็มที่มาก
16 | แล้วถ้าเทียบระหว่างที่อยู่ในห้องกับกรรมการตอนตรวจชุด กับตอนที่เราขึ้นไปแสดงบนเวทีอันไหนกดดันกว่ากันคะ ?
▐ Ryou : รู้สึกกดดันกับตอน….ตรวจชุดมากกว่านะฮะ
▐ Katto : อื้ออ
▐ Ryou : ผมรู้สึกว่าตอนขึ้นเวที เราก็ทำอย่างที่เราทำ นั่นละฮะ (หัวเราะ)
▐ Katto : ใช่ ทำอย่างที่ซ้อมมา มันก็เลยไม่ค่อยจะตื่นเต้นเท่าไหร่
▐ Ryou : จะมีผิดบ้าง อะไรแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหน้างาน ณ ตอนนั้นจริง ๆ
▐ Katto : ของผมก็น่าจะตอนตรวจชุดเหมือนกัน เพราะว่าเวลาอยู่บนเวที เรามองลงไปข้างล่าง ด้วยความที่ว่าไฟบนเวทีมันสว่างมาก ๆ เราแทบจะไม่เห็นคนข้างล่างอยู่แล้ว ก็เลยรู้สึกว่าเราก็แสดงให้ใครสักคนดู แต่ ณ ตอนนั้นเราก็พยายามที่จะมองไปที่คนดูแม้ว่าเราจะมองใครไม่เห็นก็ตาม
(เสียงกลั้วหัวเราะ)
แต่พอมาเป็นตรวจชุด สายตายี่สิบคู่ของสิบคนจ้องมองมาที่เรา ก็จะแบบ…มีความกดดันอยู่บ้าง จนถึงขนาดที่ผม Blank พูดอะไรไม่ออก (หัวเราะ)
แต่บนเวทีผมก็มีกดดันอยู่จุดนึง ก็คือผมกลัวที่จะเปลี่ยนชุดไม่ทัน แต่ว่าเราก็ซ้อมมาพอสมควร ซึ่งมันก็ทันแล้วก็มีพอมีเวลาเหลือบ้างครับ
Credit : World Cosplay Summit Thailand
17 | หลังจากประกวดเสร็จ รู้สึกยังไงบ้างคะ โล่งไหม ?
▐ Katto : โล่งครับโล่ง รู้สึกว่า เอ้อ…ฟรีแล้ววว! ที่เหลือก็คือรอผล พอแสดงเสร็จก็ไม่ได้มีความรู้สึกกดดันอะไรเพราะเราทำทุกอย่างอย่างเต็มที่แล้ว
▐ Cosplus : ทางคุณแว่นรู้สึกยังไงบ้างคะ ?
▐ Ryou : พี่เก่งก็พูดไปหมดแล้วนะครับ (เสียงกลั้วหัวเราะ) เพราะว่าเราก็ไปด้วยกัน เราก็เจออะไรเหมือน ๆ กัน
18 | ไปร่วมกิจกรรมกับตัวแทนประเทศอื่น ๆ หลายวัน มีทีมไหนที่เราสนิทหรือประทับใจเค้ามั้ยคะ ?
▐ Ryou : ได้คุยกับคนเยอะครับ แต่ว่าที่สนิทจะเป็นญี่ปุ่น ลัทเวียร์แล้วก็มาเลเซียครับ ที่ไปไหนมาไหนด้วยกัน แล้วก็ลากยาวจนไปถึงซาอุฯที่ผ่านมา กรุ๊ปเดียวกัน ไปไหนไปด้วยกันบ่อย
▐ Cosplus : มีได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์อะไรกันบ้างไหมคะ ?
▐ Katto : ถ้าประสบการณ์ตอนไปญี่ปุ่น ด้วยความที่ว่าเราอยู่กรุ๊ปสามแล้วทีมอื่น ๆ เราไม่ค่อยได้ … คือทีมที่พูดก่อนหน้านี้เราจะอยู่คนละกรุ๊ปกัน เลยทำให้ไม่ค่อยได้
▐ Ryou : คือเวลาไม่ตรงกัน
▐ Katto : ใช่ ๆ เวลาไม่ตรงกัน ไม่ใช่ว่าเราไม่ได้คุยกับคนในกรุ๊ปเดียวกัน แต่ว่าด้วยเวลา ณ ตอนนั้น แต่ละทีมก็มีสิ่งที่ต้องทำ ต้องโฟกัสกันไป ก็เลยไม่ค่อยได้คุย จนมาได้คุยกันก็ตอนไปซาอุฯนี่ละครับ
▐ Ryou : ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง ก็เลยสนิทกันง่ายขึ้นเป็นพิเศษ
▐ Katto : เรื่องการแลกเปลี่ยน ผมก็ได้รู้มุมมองของการทำชุด เค้าอาจจะไม่ได้อธิบายอะไร แต่เราก็ใช้วิธีการดูเอาว่า ไอ้ตรงนี้เขาทำยังไง ก็คงไม่ได้ไปถามกันตรง ๆ ก็ใช้วิธีการเหมือนได้มองดูผลงาน เห็นแล้วก็ อ๋อ ตรงนี้ทำแบบนี้ได้นะ
19 | แล้วตอนรอบไปซาอุฯ เป็นยังไงบ้างคะ ?
▐ Ryou : ที่ซาอุฯ มันก็จะมีเรื่องหลาย ๆ เรื่อง ที่เราจะต้องปรับจากสเตจญี่ปุ่น ทั้งเรื่องของจอ…ในเรื่องของการเปลี่ยนภาษา ก่อนหน้านี้จอเราเป็นภาษาญี่ปุ่น เสียงภาษาไทย ก็รู้สึกว่า เอ้อ..เรามาลองเปลี่ยนให้เป็นภาษาอังกฤษดีไหม แล้วลองย่อบางอย่าง ด้วยว่าพรอพตอนไปญี่ปุ่นเยอะมาก พอตอนนี้เราจะบินไปในประเทศที่ค่อนข้างห่างจากเรา ไม่รู้ว่าการขนส่งจะเป็นแบบไหน การเดินทางจะง่ายเหมือนตอนไปญี่ปุ่นไหม เราเลยคิดว่า เราลดหรือปรับเปลี่ยนบางช่วงออกบ้าง แต่ยังอยากให้มันคงความสนุกในบางจุดอยู่ เพราะงั้นเราจำเป็นต้องทำงานเพิ่มตรงจุดนี้
ด้วยเราอยากให้โชว์มันแปลกใหม่ขึ้น คนที่ดูโชว์ครั้งที่แล้วที่ญี่ปุ่นยังสามารถดูโชว์นี้ได้อีกรอบ ก็ทำให้บางจุดไม่เหมือนเดิมครับ ก็เน้นอยากให้คนดูสนุกไปกับโชว์มากกว่า เหมือนเวลาเราอ่านมังงะหรือเราดูอนิเมะบางจุดที่มันไม่เหมือนกันแต่ว่าเนื้อเรื่องเป็นไปในเส้นทางเดียวกัน
ตอนเดินทางถึงซาอุฯ ก็มีการเตือน ๆ กันไว้แล้วในเรื่องของสภาพอากาศ ที่ค่อนข้างจะร้อนเป็นพิเศษนะครับ
▐ Katto : ร้อนมาก ๆ ครับ
▐ Ryou : ด้วยเป็นประเทศที่เราเพิ่งไปครั้งแรก เราค่อนข้างที่จะไม่รู้บางอย่าง แต่ว่าทางทีมงานเค้าใจดีครับ เค้ามีเรื่องของรถรับส่ง ทั้งจากสนามบินไปโรงแรม แล้วก็จากที่พักไปที่งาน ทำให้ไม่ค่อยลำบากเรื่องการเดินทาง ก็จะมีเรื่องการเตรียมตัวเรื่องสภาพอากาศละครับ ขนาดเราคิดว่าบ้านเราเป็นเมืองร้อนแล้วนะครับ มาถึงที่นู่น….เป็นเมืองร้อนมาก (หัวเราะ)
▐ Katto : ร้อนจนถึงขนาดที่ว่าเค้าเตือนเลยว่า ตอนกลางวันอย่าออกไป อุณหภูมิตอนนั้นพีคสุดที่ได้เจอก็คือ 44 องศาฮะ เกินด้วย
▐ Ryou : ใช่ฮะ เพราะว่ามีคนเช็คอยู่แล้วเป็น 47 อยู่
▐ Katto : มีอยู่วันนึงมั้งครับ ไม่แน่ใจแต่ว่าตัวฟิลลิ่งจริง ๆ มันน่าจะมากกว่า 44 องศาอยู่แล้ว แล้วก็การเตรียมตัวที่มีการเปลี่ยนนั่น นู่น นี่ ในส่วนของชุดของลูฟี่ ทางเค้าค่อนข้างที่จะซีเรียสในส่วนที่ต้องโชว์เนื้อหนังร่างกาย เราก็เลยหาบอดี้สูทมา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับเพราะว่าผมจะได้ไม่ต้องมานั่งแต่งแผล (หัวเราะร่วน) เพราะว่าตอนที่ญี่ปุ่น ผมใช้กาว ติดกาวกับแผลตรงนั้น แปะเข้าไปที่ผิวหนังเลย พอลอกออกมาก็แพ้ครับ มีผื่นขึ้น
แล้วก็ในการเตรียมตัว สภาพร่างกายที่จะต้องเตรียมตัวเพราะว่า อากาศมันร้อนมากครับ ร้อนมาก ๆ แม้กระทั่งกลางคืนก็ยังคงร้อนอยู่ 2 ทุ่ม ก็ยัง 30 องศา แล้วก็เรื่องอาหารที่น้องแว่นแบบ…เอ็นจอยมาก (หัวเราะ) ตอนแรกผมก็แบบว่า เราเป็นคนที่กินอะไรไม่เคยแพ้เลย แค่ผมเป็นคนที่ไม่กินเนื้อวัวอย่างเดียว เราอาจจะระวังเรื่องเนื้อวัวหน่อย แต่กลายเป็นว่าเราไปแพ้ผักดอง ปากก็ลอกไป (หัวเราะ)
▐ Cosplus : แล้วคุณแว่นเอ็นจอยอาหารจานไหนบ้างคะ จากที่คุณเก่งพูดมา
▐ Ryou : เยอะมากเลยครับ (เสียงตื่นเต้น)
▐ Katto : ทุกอย่างบอกเค้าไป ทุกอย่างง บอกเค้า
▐ Cosplus : มาเลยค่ะ บอกเรามา !
▐ Ryou : มี Albaik ครับ ก็อร่อย (เสียงเคลิบเคลิ้ม) ชาวาร์มา
▐ Katto : ชาวาร์มา ถ้าบ้านเราก็เรียกว่าเคบับก็ได้ฮะ
▐ Cosplus : อ้อออ แล้วจานแรกตะกี้ชื่ออะไรนะคะ
▐ Ryou : Albaik ครับ จะเป็นเหมือนฟาสต์ฟู้ดล่ะครับ เหมือนนักเก็ตกับเฟรนช์ฟรายส์ของบ้านเค้า จะมีซอสให้เลือกทานกับนักเก็ตเหมือนเป็นซอสกระเทียม
▐ Katto : เป็นแบรนด์ร้านไก่ทอด อร่อยครับ
▐ Cosplus : แสดงว่าอันนี้คุณเก่งก็เอ็นจอยเหมือนกัน
▐ Katto : อันนี้ เอ็นจอยเลยครับ ได้เลย ดีเลย
▐ Cosplus : มีอาหารจานไหนอีกบ้างมั้ยคะ นอกจากสองอย่างนี้
▐ Ryou : อ้า..ผมจำภาษาพื้นถิ่นไม่ได้ แต่ว่าจะเป็นพวกข้าวหมกครับ
▐ Katto : ข้าวบัสมาติที่เรียว ๆ ยาว ๆ หน่อย
▐ Ryou : ใช่ครับแล้วก็มีเป็นเครื่องเทศ เป็นเนื้อสัตว์ ของเขาหลาย ๆ แบบ
▐ Katto : น้องแว่นกินอะไรนะ กินข้าวหมกแพะ
▐ Ryou : ใช่ วางเป็นกะโหลกโต้ง ๆ กันตรงนั้นเลย แล้วก็เอ็นจอยด้วยครับตรงที่เป็นฟิลเราได้นั่งกินกับเพื่อนด้วย กับทุกเช้ากลางวันเย็น
▐ Katto : ด้วยที่นี่ส่วนมากกิจกรรมจะเป็นในช่วงกลางคืน ในช่วงกลางวันเราก็ยังพอมีเวลา ที่จะสามารถที่จะได้คุยกับเพื่อน ๆ ได้มากกว่าตอนที่ญึ่ปุ่น เพราะเรามีเวลาที่มากขึ้น
▐ Cosplus : เลยทำให้มีโอกาสสนิทกับเพื่อน ๆ ประเทศอื่นมากขึ้น จากตอนรอบซาอุฯ เพราะว่ามีเวลาตอนกลางวันใช่มั้ยคะ ?
▐ Katto : ใช่ครับ แต่พอถึงเวลาที่เข้าร่วมกิจกรรม เราทำหน้าที่ตรงนั้นเต็มที่ไป
▐ Cosplus : อย่างนี้ตอนรอบซาอุฯ เขามีกิจกรรมอะไรประมาณไหนบ้างคะ ?
▐ Ryou : เค้าจะจัดเป็นกิจกรรมของเวที กับของตัวกิจกรรมที่เค้าจะจัดตลอดทั้งเดือนอยู่แล้ว ของงาน Gamers8 งานเค้าจะมีวันที่ให้พวกเราไปที่สเตจ กับวันที่ให้พวกเราได้ไปเดินงานอีเว้นท์ของเขา มีทั้งในส่วนของ Japamura ก็จะมีกิจกรรมมากมาย หลากหลายอย่างเลยครับ เขาพยายามจะยกกิจกรรมมาหลาย ๆ แบบ มาไว้ในสถานที่จัดงานเลย มีทั้งโซนขายของ โซนของ japamura ก็มีเป็นเมืองจำลองญี่ปุ่นอยู่ข้างใน สถานที่จัดงานเค้าค่อนข้างใหญ่มาก มีตึกที่เป็นจอล้วนเหมือนเป็นไทม์สแควร์ มียกหุ่นมา มีฮอลล์ที่เป็นสำหรับเกมเมอร์ จัดแข่งเกมด้วย แล้วก็ฮอลล์หลาย ๆ แบบ หลาย ๆ ประเภท รวมถึงสนามโกคาร์ทด้วยครับ
▐ Cosplus : โหวว
▐ Ryou : เขาเอาสนามโกคาร์ทมาไว้ข้างในเลย
▐ Cosplus : เราได้ลองเล่นไหมคะ ?
▐ Ryou : ได้ลองเล่นมาครับ จะมีทั้งโกคาร์ทที่เป็นรถจริง ๆ กับเครื่องเกมแบบที่เป็นที่นั่งเหมือนรถแข่ง
▐ Cosplus : คุณแว่นเล่นมา มีชอบกิจกรรมไหนเป็นพิเศษไหมคะ ?
▐ Ryou : ชอบโกคาร์ทครับ ด้วยความที่เราคอสเพลย์ไปเดิน เค้าก็อนุญาตให้เรานั่งโกคาร์ททั้งในชุดคอสเพลย์ ทั้งวิกได้เลย เหมือนกับได้ขับรถในชุดของตัวละครนั้น ๆ ไปเลย (น้ำเสียงตื่นเต้น) แล้วก็อยู่กับเพื่อน ๆ อีกประมาณสิบคนครับ
▐ Cosplus : แล้วคุณเก่งมีประทับใจกิจกรรมไหนของที่ซาอุฯมั้ยคะ ?
▐ Katto : ที่ประทับใจอย่างแรกเลยคือประทับใจเวทีประกวดที่นู่นน่ะครับ มันค่อนข้างที่จะใหญ่ แบบใหญ่มาก เรียกว่ามันเป็นเวทีคอนเสิร์ตเลยดีกว่า มันเหมือนทำให้เป็นคอนเสิร์ตด้วยแล้วก็ในการเป็นสเตจโชว์ด้วย รู้สึกว่าวิ่งกันขาขวิด (หัวเราะ) จากเดิมก็วิ่งกันไม่ทันอยู่แล้ว นี่เจออันนี้เข้าไปก็เหนื่อยกว่าเดิม (หัวเราะ) แต่สนุกครับ
Credit : World Cosplay Summit
แล้วก็กิจกรรมที่ได้ร่วมเอ็นจอย น้องแว่นบอกว่าเป็นโกคาร์ท ก็น้องแว่นน่าจะเอ็นจอยสุดละเพราะเค้าชนะนี่ เค้าบอกว่า(เสียงกลั้วหัวเราะ)…เค้าบอกว่าเค้าทำคนอื่นกินฝุ่นไปหลายคนอยู่ “ผมน็อกรอบเยอะเล้ย” เค้าว่า (หัวเราะ)
▐ Cosplus : อย่างนี้นี่เองมันสนุกด้วยแล้วเราก็เป็นผู้ชนะด้วย
▐ Ryou : ใช่ฮะ
▐ Katto : ของผมก็โกคาร์ทนี่ละครับ แต่ว่าอาจจะทุลักทุเลนิดนึงเพราะว่าเราก็ไม่ทราบว่ามันมีการไปโกคาร์ทนะ แล้วผมก็แต่ง dan heng ไปชุดผมยาว ๆ… ชุด Dragon form ตัวไฮบริด ก็ต้องรีบถอดเขา ถอดหู นู่นนั่นนี่ ตอนแรกว่าจะไม่เล่นแล้ว แต่เพื่อนเค้าก็บอกว่า เฮ้ย…ครั้งนึงในชีวิต ไม่ได้มาขับกันง่าย ๆ นะ แล้วในชุดคอสเพลย์ด้วย เราก็เลย ได้ดิค้าบบ ก็สนุกดีครับ อีกอย่างนึงก็เรื่องที่เราอะไรกันนะน้องแว่น ไปทะเลทราย
▐ Ryou : เอ้อใช่ ไปทะเลทราย
▐ Katto : ทะเลทรายตรงนี้เรา…สนุกอะ เพราะพูดตรง ๆ ว่าไม่ได้หาดูกันง่าย ๆ
▐ Ryou : ใช่ครับ มันใหม่ด้วย มันจะเป็นจุดที่เราขึ้นไปบนเนิน แล้วเรามองลงไปแล้วมันจะมีแต่ทะเลทราย จริง ๆ เป็นทริปที่ไม่ได้เป็นออฟฟิเชียลนะครับ ไม่ได้เป็นทริปที่เค้าจัดการว่าเขาจะพาไป เหมือนหลาย ๆ คนไปเรียกร้องกัน(เสียงกลั้วหัวเราะ) แล้วก็มีคนตั้งกันขึ้นมาว่า…แชร์กันเพื่อที่จะไปทริปครับผม ก็เลยมีคนที่ดำเนินการเป็นหัวเรือครับ ในการเช่ารถ แล้วก็พาไป
▐ Katto : ก็คือเป็นหนึ่งในทีมงานน่ะครับ ที่เขาดูแลเราอยู่แล้ว เค้าก็ทำหน้าที่ตรงนี้ เพราะว่าไม่ใช่แค่พวกเราที่อยากไป ก็มีหลาย ๆ ประเทศที่อยากจะไปด้วย สุดท้ายก็คือไปกันทั้งหมดเนี่ยละครับ
▐ Ryou : แต่ไม่ได้เป็นกิจกรรมของออฟฟิเชียลที่เค้าลงตารางให้นะครับ
▐ Katto : ด้วยความที่ว่ามันเป็นช่วงฟรีไทม์ด้วยครับ อะไรแบบนี้
▐ Cosplus : แล้วร้อนไหมคะ ?
▐ Katto : ยังไม่ร้อนเนอะ เราไปกันช่วงเช้า เช้าตรู่
▐ Ryou : ใช่ฮะ ไปช่วงเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น
▐ Katto : เราออกกันตั้งแต่ตีสามตีสี่ครับ
▐ Ryou : ใช่ ตีสี่ พระอาทิตย์ขึ้น ก็เลยไม่ร้อน ขากลับออกจากที่นู่นประมาณเจ็ดโมงเกือบแปดโมง เป็นช่วงที่ทะเลทรายยังเย็นอยู่ แดดเพิ่งขึ้นไม่ร้อน
▐ Katto : ทะเลทรายยังเย็น ๆ อยู่เลยครับ เราออกจากประเทศไทยตอนวันพุธ ไปถึงที่ซาอุฯประมาณสองทุ่ม
▐ Ryou : ถึงที่พักสี่ทุ่ม
▐ Katto : ถึงที่พักประมาณสี่ทุ่ม ห้าทุ่มอะไรประมาณนี้ เราก็เตรียมตัวเลย ก็คือไม่ได้นอนในคืนนั้น แล้วก็ไปทะเลทรายเลย ก็เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ดี
▐ Cosplus : แล้วตอนซาอุฯ ในส่วนของการประกวดเหมือนตอนที่ญี่ปุ่นเลยมั้ยคะ ?
▐ Katto : เหมือนกันเลยครับ
▐ Ryou : มีครับ แต่ว่ากรรมการจะเป็นคนละชุดกัน
▐ Katto : กรรมการเซ็ตนี้รู้สึกว่า แต่ละคนก็จะมีความถนัดเฉพาะทางของแต่ละท่าน ก็รู้สึกว่าที่นี่จะเข้มกว่า
▐ Cosplus : แล้วเทียบกันแล้วความกดดัน แตกต่างมากน้อยกว่ากันยังไงไหมคะระหว่างญี่ปุ่นกับซาอุฯ ?
▐ Ryou : ความกดดันน่าจะแตกต่างกันที่ตัวเราด้วยมั้งครับ ด้วยความที่รอบซาอุฯเราไปชิล ๆ จอย ๆ กับเพื่อน ๆ มากกว่า เราไปสนุกเต็มที่เลย ทำทุกอย่างให้เต็มที่เลย ด้วยเรามีเพื่อนที่รู้จักกันมาก่อนแล้วตั้งแต่ญี่ปุ่น พอมาทีนี่เลยได้สนิทกว่าเดิม ได้คุยมากกว่าเดิม เป็นบรรยากาศที่จอยกว่าครับ
▐ Katto : ด้วยบรรยากาศที่ญี่ปุ่นตอนนั้น ทำให้เรารู้สึกว่าเรากดดันมากกับการแข่งขัน จนเรารู้สึกว่าเราไม่ได้เอ็นจอยกับกิจกรรมอื่น ๆ มากนัก แล้วพอมาที่ซาอุฯเนี่ย เราก็คุยกันว่าเราอยากไปจอยอะ ส่วนเรื่องการแข่งขัน ก็ให้เป็นเรื่องของการทำหน้าที่บนเวทีไป
▐ Ryou : ด้วยความที่เราชินเวทีขึ้นมาหน่อยนึงด้วยแล้ว ก็จะมีความผ่อนคลายขึ้นบ้าง เรารู้กระบวนการแล้วก็กำหนดเรื่องเวลาได้ดีขึ้นว่าเราควรใช้เวลาแต่งหน้าเท่านี้ เปลี่ยนชุดเท่านี้ เราก็สามารถที่จะไปทำอย่างอื่นได้ เช่น ไปนั่งกินข้าวรอได้ นั่งคุยกับเพื่อนรอได้ ไม่ได้ต้องนั่งเครียดว่าจะถึงเวลาแล้วเราต้องทำอะไรดี
▐ Katto : ด้วยตารางเวลาที่เค้าวางไว้ก็ค่อนข้างจะชัดเจนด้วยครับ แต่ของผมก็จะกดดันเรื่องบทนิดนึงเพราะว่ามีการเปลี่ยนบท ก็กลัวว่าเราจะผิดบท
20 | รอบซาอุฯเรามีปรับโชว์อะไรบ้างมั้ยคะ ?
▐ Katto : การดำเนินเรื่องช่วงแรกเปลี่ยนไป
▐ Ryou : ก็มีคิดอยู่ว่าอันเก่าเลยดีมั้ย แต่เราอยากทำใหม่
▐ Katto : คิดว่าอันเก่าก็ดี แต่อันใหม่เราซ้อมน้อย เลยไม่ได้เห็นภาพรวม
▐ Ryou : พอไปเห็นต่างประเทศแล้วเรารู้สึกว่าปีนี้ทุกคนเค้าจัดเต็มกันหนักมาก หนักมากกว่าปีที่เราไปเป็น alumni ปีที่แล้ว เหมือนปีที่แล้วมีสิบกว่าประเทศ ปีนี้มีสามสิบกว่า มากกว่าเท่าตัวนึง รู้สีกความเข้มข้นมันหนักมาก คิดว่าไปซาอุฯมันน่าจะหนักกว่านี้อีก เราเลยมาลองปรับแก้นิด ๆ หน่อย ๆ กับความรู้สึกว่าเราอยากให้มันเอนเตอร์เทน อย่างน้อยไม่ได้รางวัลแต่มันเอนเตอร์เทน เลยไปเน้นที่ความสนุก ความเซอร์วิสของเนื้อเรื่องมันหน่อย แม้ไม่ได้รางวัลแต่ถ้าอย่างน้อยดูวันพีซก็จะสนุก คือของที่ซาอุฯทำแบบไม่สนรางวัล (หัวเราะ)
Credit : World Cosplay Summit
▐ Katto : จะบอกว่าไม่คาดหวัง ก็ไม่ถูก แต่ว่าไปด้วยแพชชั่นอื่นมากกว่า แพชชั่นที่อยากจะเอนจอยจริง ๆ แล้วก็ไปเพื่อจะได้เจอเพื่อน ๆ ที่ชอบวันพีซ เพราะรู้มาว่าที่ซาอุฯ วันพีซเป็นอนิเมะนัมเบอร์วันของที่นู่นเลย ก็มีเพื่อนที่เดินมาแซว ๆ ว่า “เอ้ยย ประเทศไทย มีอะไรอยากจะบอก ทีมสปอยเลอร์อะเราอะ” (หัวเราะ) ซึ่งต่างประเทศเค้าไม่ได้นิยมอ่านมังงะ เค้าดูอนิเมะกันมากกว่า
▐ Ryou : บางประเทศเค้าก็วิ่งเข้ามาคุยกับเราก่อนเลย พอรู้ว่าทีมไทยทำวันพีซ ใช่ที่ทำที่ญี่ปุ่นใช่มั้ย เค้าชอบมาก เป็นขวัญใจคนดูวันพีซ (หัวเราะ) ก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละทีมจะนำเสนอเป็นแบบไหน
▐ Katto : เพราะว่าหลังจากที่แสดงเสร็จหรือก่อนแสดง หรือบางคนที่เห็นการแสดงมาก่อนหน้านี้แล้ว เค้าก็มาบอกว่าชอบมากเลย คุณแสดงดี ไคโดก็ดูมีพลัง ลูฟี่ก็มีความเป็นเกียร์ห้า ยิ่งแสดงเสร็จแล้วเค้ายิ่งเข้ามาชมกัน ผมก็ใจฟูเลย เพราะว่าถ้าถามถึงความยากง่ายของโชว์นี้ต้องบอกว่าการ์ตูนจัมพ์ทุกเรื่องความเป็นโชเน็นมันสูง คือมันจะมีพลัง การที่จะทำให้เป็นรูปธรรมได้ มันค่อนข้างจะยากแล้วก็ค่อนข้างท้าทาย จะทำยังไงให้ออกมาเป็นหมัดยางยืด จะทำยังไงให้หมัดมันดูใหญ่กว่านี้นะ
หรือไม่ต้องเรื่องวันพีซก็ได้ ถ้าเป็นบลีชหรือนารูโตะอย่างเนี้ย ก็ขึ้นกับว่าแต่ละทีมเค้าจะนำเสนอออกมาเป็นแบบไหน อย่างนารูโตะเราก็ไม่คิดว่าอย่าง Rasengan เค้าจะทำออกมาเป็นยังไงนะ แต่เห็นบางทีมอย่างทีมบราซิลที่รอบญี่ปุ่นเค้าก็ทำออกมาจากอคริลิครึเปล่านะ ไม่แน่ใจ เค้าก็ทำออกมาเป็นรูปธรรมได้ ก็เป็นความท้าทายในการใช้จัมพ์มาลง อีกอย่างก็เส้นเรื่องของโชเน็น มันจะไม่ได้ซ้บซ้อนมาก ดูแล้วเข้าใจง่าย แฟนบอยต่าง ๆ ก็จะรู้เนื้อเรื่องพอประมาณอยู่แล้ว แต่ส่วนที่ยากคือชุด…ชุดมันก็ไม่ได้จะหรูหราหรืออลังการเหมือนเรื่องอื่น ๆ ไม่ได้เกราะมาเต็ม ก็อาจจะเป็นข้อดีข้อเสียของการเอาจัมพ์มาลง
21 | มีอะไรที่คิดว่าได้เรียนรู้หรือได้พบเห็นจากการไปทั้งสองที่นี้มาบ้าง ?
▐ Ryou : ตอนที่เราไป ทั้งญี่ปุ่นกับซาอุฯ เราได้เรียนรู้เรื่องชุดมาเยอะมาก คือเราคิดว่า…เออ เท่านี้ก็คงพอแล้วละ
▐ Katto : ไม่รู้จะเติมตรงไหนแล้ว
▐ Ryou : ไม่รู้จะเติมจุดไหนได้ แต่ว่าพอเราไปถึงที่นู่น เราได้เห็นผลงานของหลาย ๆ คน หลาย ๆ ประเทศ เรารู้สึกว่า โห มันยังมีอะไรที่มากกว่านี้อีก
▐ Katto : โลกที่เราเคยเจอนี้เล็กลงไปเลย
▐ Ryou : รู้สึกว่าเรายังเป็นแค่จุดสตาร์ทของเขาในหลาย ๆ ประเทศ แบบนี้เลยอะครับ
▐ Katto : เพิ่งจะเรียนรู้ แล้วก็ไปสู่ทวีปมืดเลย เรายังไป จัง เคน โปง (เป่ายิ้งฉุบภาษาญี่ปุ่น) ใส่ชาวบ้านชาวช่อง แล้วเขาก็บอกว่าทำได้แค่นี้เองเหรอไอ้หนุ่ม พอไปที่ซาอุฯ …ของผมจะโฟกัสตอนที่ซาอุฯมากกว่า เพราะตอนเราอยู่ญี่ปุ่น เราไม่ได้มีเวลาในการที่จะไปสอดส่อง หรือได้ไปดูอะไรมากมายเท่าไหร่ จนมาถึงที่ซาอุฯ ที่จะมีเวลาได้ดูนู่น นั่น นี่ บวกกับเวลาในการเตรียมตัว เพราะว่าที่ซาอุฯมีกันสี่สิบห้าประเทศ ตอนที่ซาอุฯ ที่ผมตื่นตาตื่นใจสุดจะเป็นประเทศเปรูครับ ผมชอบทีมนี้มากในเรื่องของคอสตูม เพราะว่าทีมนี้เค้าจะออกเป็น…เค้าเรียกว่าอะไรอะ
▐ Ryou : ลาเท็กซ์
▐ Katto : เป็นชุดลาเท็กซ์ทั้งตัว
▐ Ryou : จาก Warcraft
▐ Katto : ใช่ จาก World of Warcraft เค้าเป็นออร์ค แล้วชุดเค้าทำออกมาทั้งกล้ามเนื้อก็ดี ดีเทลกล้ามเนื้อก็ดี มันเพอร์เฟ็คมาก รู้สึกว่าทุกคนชุดโหดมาก แล้วยิ่งมองโกเลียเนอะ
▐ Ryou : ใช่ Bastion
▐ Katto : Bastion นี่ชุดโหดมาก เพราะว่าสัดส่วนแทบจะเรียกว่าหนึ่งต่อหนึ่งเลยก็ว่าได้ เราเห็นแล้วเราว้าวมาก แล้วการแสดง การโชว์ของเค้าก็ดีมาก
▐ Ryou : ดีมากครับ ทำให้เราก็ยังอยากที่จะพัฒนาเรื่องของการทำชุดไคโดนี้ต่อไปอีก รอติดตามได้ คิดว่าจะเอากลับมาแก้ไข มาทำอะไรเพิ่ม ให้มันดูดีมากขึ้นกว่านี้ได้อีก หลังจากไปเห็นงานต่างประเทศแล้วทำให้เรารู้สึกว่า เรายังอยากที่จะพัฒนางานเราต่อไปให้ได้มากกว่านี้น่ะครับ เพื่อที่ว่าเราจะได้ stand out อยู่ ในเวทีของระดับโลกบ้าง ถือว่าดีครับ เป็นประสบการณ์ใหม่มาก ๆ บางอย่างเราจะไม่รู้สึกจริง ๆ จนกว่าเราจะไปเห็นจริง ๆ ว่าเนี่ยคือมาตรฐานของต่างประเทศนะ เราก็อยากที่จะกลับมา แล้วพยายามที่จะยกระดับของประเทศเราให้ไปถึงจุดที่เป็นหนึ่งในตัวท็อป ๆ ของต่างประเทศให้ได้ครับ
22 | จากที่ไปประกวดมาทั้งสองประเทศ มีการอะไรที่พบเห็นแล้วอยากให้มีในไทยบ้างมั้ย ?
▐ Ryou : อยากให้มีงานประกวดอย่างนี้อีก ทั้งในไทยแล้วก็ในต่างประเทศอีกน่ะครับ เพราะเรารู้สึกว่าเราสนุกแล้วเราได้เห็นโชว์ใหม่ ๆ เทคนิคใหม่ ๆ ชุดคอสแล้วก็เทคนิคใหม่ ๆ จากหลาย ๆ ประเทศ ที่เรารู้สึกว่าบางอันก็อยากให้เพื่อนที่อยู่ในประเทศเดียวกันกับเราได้เห็นด้วย เช่น เทคนิคนี้น่าสนใจนะ หรือว่าการแสดงอย่างนี้ โชว์อย่างนี้ น่าสนใจนะ
▐ Cosplus : ก็คืออยากให้เรามีประกวดแบบที่มีเพื่อนต่างชาติมาประกวดในไทยบ้าง
▐ Ryou : ใช่ครับใช่ หรือว่ามีการแข่งขันที่ค่อนข้างจะใหญ่พอ หรือในสเกลที่ใกล้เคียงกันกับของ WCS บ้าง
▐ Katto : ถ้าเป็นเรื่องของสเตจก็คงอยากให้มีในเรื่องของไฟครับ เพราะผมมองว่าไฟค่อนข้างจะเป็นปัจจัยหลักพอสมควรในการทำให้โชว์ ๆ นั้นอิมแพ็คมากยิ่งขึ้น ถ้าเราสังเกตทีมญี่ปุ่นเนี่ย เราจะเห็นว่าตอนสุดท้ายของที่ Bakugou ไฟทั้งฮอลดับแล้วเหลือแค่ฟอลโลว์ ไปที่ตรงตัว Bakugou ตรงนั้นน่ะมันทำให้โชว์มันโคตรอิมแพคไปเลย ถ้ามองในมุมกลับกันว่าถ้าตอนนั้น Bakugou ไม่มีไฟดับและไม่มีไฟฟอลโลว์ มันก็อาจจะเป็นโชว์ที่จืดลง ก็คิดว่าเนื้อเรื่องและบรรยากาศในตอนนั้นมันดรอปลงหรือดีขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับไฟ ก็อยากจะให้ประเทศไทยได้มีโอกาสแบบนี้
▐ Cosplus : ก็อยากให้มีเวทีที่มีเน้นการจัดไฟในไทยบ้าง ?
▐ Ryou : ใช่ครับ
▐ Katto : ก็จะช่วยดึงเรื่องศักยภาพ
▐ Ryou : เราก็ไปมีเรื่องประสบการณ์การใช้ไฟมาแล้วทั้งทางที่ดีและไม่ดี (เสียงกลั้วหัวเราะ)
▐ Katto : (หัวเราะตาม) ใช่ ๆ
▐ Cosplus : พอจะเล่าให้ฟังทั้งประสบการณ์ทั้งอันที่ดีและไม่ดีให้ฟังได้มั้ยคะ ?
▐ Ryou : บางอย่างมันจะเป็นเรื่องของการสื่อสารผิดพลาดบ้าง ด้วยที่ว่าเราอาจจะไม่ได้เข้าไปคุยกับตัวคนคุมแสงโดยตรง หรือในเรื่องของกำแพงภาษา ก็อาจจะอธิบายได้ค่อนข้างยากนิดนึงครับ ทำให้บางทีแสงมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราต้องการหรือที่เราบรีฟไว้
▐ Cosplus : ก็มีอุปสรรคจากการสื่อสารด้วย
▐ Katto : ใช่ครับ
▐ Ryou : ก็อาจจะฝากกับใครที่จะไป ลองศึกษาเรื่องไฟให้ดี ๆ อะไรที่เราต้องการก็อาจจะต้องหาเรฟเฟอร์เรนซ์ หรืออะไรที่เราสามารถบอกกับเขาได้ง่ายมากขึ้น เพราะว่าตอนแรกที่เราไปใหม่ ๆ เราไม่ได้คิดถึงเรื่องไฟมากเท่าไหร่ครับ แต่ว่าพอมาดูโชว์โดยรวมแล้วรู้สึกว่า ไฟเป็นเรื่องสำคัญจริง ๆ นะ ที่จะดึงสายตาคนหรือว่าจะทำให้โชว์เราดูอิมแพ็คมากขึ้น
▐ Katto : แต่ก็เข้าใจอยู่ว่า การจัดวางไฟมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดเพราะว่า ตอนที่เราทำก็มีช่วงของไทม์มิ่งว่าช่วงเวลานี้เราจะใช้ไฟแบบนี้ ช่วงเวลานั้นเราอยากไฟแบบนี้ เพราะงั้นถ้าจะต้องทำขึ้นมาจริง ๆ มันค่อนข้างที่จะยุ่งยากพอสมควร เพราะทีมมันก็ไม่ได้มีแค่สองสามทีม แต่มีเป็นสิบทีมยี่สิบทีม ก็ต้องทำการบ้านกันหนักหน่อย
▐ Cosplus : เราไกด์ไฟกันเป็นแบบวินาทีเลยใช่มั้ยคะ ?
▐ Katto : ใช่ครับ ไกด์เป็นวินาที ๆ เลย
▐ Cosplus : มีการแสดงที่จะต้องให้ตรงกับไฟด้วย มีกดดันเพิ่มมั้ยคะ ?
▐ Katto : ใช่ครับ แต่ถ้าเราวางไทม์มิ่งให้เค้า มันก็…
▐ Ryou : ก็จะสะดวกขึ้นครับ
▐ Katto : ก็จะสะดวกขึ้นแล้วก็สนุกขึ้นครับ แต่ว่าทั้งนี้พอมาอยู่ตรงบนเวทีแล้ว มันเป็นเรื่องที่เป็นปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ เราก็ทำอะไรไม่ได้ แค่ต้อง….เดอะโชว์มัสต์โกออนต่อไป แล้วก็แสดงโชว์ให้ออกมาดีที่สุด
▐ Cosplus : เหนื่อยเลยนะคะ ไปทั้งสองที่
▐ Katto : เหนื่อยแต่สนุกนะครับ
▐ Ryou : ใช่ฮะ แต่สนุกมากด้วย ขากลับก็ยังไม่อยากกลับมาเลย ถ้าไม่ติดที่ว่าหมดแรงแล้ว (หัวเราะ)
23 | ทั้งสองคนได้ร่วมงานร่วมทีมกันแล้ว มีอะไรประทับใจอะไรกันและกันมั้ยคะ ?
▐ Katto : คำถามยากจังเลยอะ (หัวเราะร่วน) ปกติพวกเราจะไม่ค่อยได้คุยกันแบบนี้ แต่ถ้าจะให้พูด…ความประทับใจก็คือ…จริง ๆ แล้วผมจะชอบพูดอยู่เสมอว่า ตัวน้องแว่นเองเนี่ยเป็นคนที่มีศักยภาพครับ เพราะน้องมีของ(หัวเราะ) น้องเค้ามีไอเดียที่ถ้าเป็นคนรุ่นผมก็จะคิดไม่ออก
อย่างถ้าเป็นแบบผมที่เคยประกวดตรงนี้ นู่น นั่น นี่มาก่อนแล้ว เราก็รู้สึกว่า…เออ….ไอเดียเนี้ย มันเป็นไอเดียที่เราคิดไม่ถึงเลย น้องแว่นก็จะมีไอเดียความคิดที่ใหม่กว่า แล้วก็น้องเค้ามีไฟ ที่จะแบบ….”พี่ทำนี่ดีกว่า” ” พี่ทำอันนั้นดีกว่า” ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่คิดว่าจะทำไคโดเลย เพราะผมเองก็ไม่ค่อยที่จะทำพรอพที่สเกลใหญ่มากขนาดนี้ ที่ทำล่าสุดก็คือปี 2018 มังกรที่ไปญี่ปุ่น แต่ว่าอันนั้นด้วยสรีระมันไม่ใช่ในรูปแบบของมนุษย์ที่จะเอามาใส่ เพราะมังกรก็คือเราก็แค่มุดเข้าไป แต่พอมาเปลี่ยนชุดนี้ที่เป็นสวมใส่ น้องก็ทำออกมาได้ดีครับ
▐ Cosplus : แล้วทางคุณแว่นล่ะคะ
▐ Ryou : ก็จะมีเรื่องของความทุ่มเทครับ คือพี่เก่งเค้าจะมีเวลาในส่วนที่เขาว่างในวันประกวด เขาก็จะมาทบทวนในเรื่องของบท ในเรื่องของซาวน์ เพื่อที่ว่าการแสดงจะได้สามารถแสดงต่อได้โดยไม่มีความผิดพลาด หรือว่าแม่นยำมากขึ้น แล้วก็เป็นคนที่คุยได้ง่ายครับ เราสามารถบอกได้ว่า เออ…อันเนี้ยอยากให้มันเป็นอย่างนี้นะ หรือว่าตรงนี้แก้หน่อยไหมครับพี่ คุยกันได้โดยที่เราไม่ได้ตะขิดตะขวงใจอะไรกัน
24 | ถ้ามีคนที่สนใจอยากจะลงประกวด WCS มีอะไรที่อยากจะแนะนำเขาไหมคะ ?
▐ Ryou : การประกวดแต่ละเวทีก็จะมีความสำคัญหรือว่าจุดเด่นของแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน ทั้งเรื่อง กฎ กติกาหรือว่าอะไรก็ตามแต่ เพราะฉะนั้นอาจจะต้องเป็นการเลือกให้ดี ตั้งแต่การเลือกเรื่องที่จะประกวด การเลือกประเภทของโชว์ หรือว่าข้อดีข้อด้อยของโชว์ที่เราจะเอาไป เพราะว่าบางทีการที่ชุดใหญ่โต หรือว่าพรอพอลังการ ฉากอลังการ มันอาจจะไม่ได้เป็นข้อดีที่สุดเสมอไป บางทีถ้าเราใส่ใจ ตั้งแต่จุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ดีที่สุด ที่เห็นบางประเทศเขาก็ไม่ได้จำเป็นที่ชุดจะต้องเป็นชุดใหญ่โตหรือว่าชุดที่เว่อร์วังอลังการอะไร แต่ว่าเขาเก็บในทุกดีเทลในชุดของเขาให้ดีมาก ๆ ก็เป็นข้อดีอีกแบบหนึ่งของการประกวดหรือว่าการทำชุดครับ
▐ Katto : อย่างบางประเทศ เค้าบอกมาว่าโฟมยางบ้านเค้าแพงมาก เขาเลยเลือกที่จะใช้ชุดผ้าแทน แต่ด้วยประสบการณ์ที่เราเจอปีล่าสุด เราจะมองว่าการที่เอาชุดใหญ่ไป มันก็ไม่ได้ทำให้ผลลัพธ์ออกมาได้อย่างที่ตั้งใจไว้ บางทีเราอาจจะลดสเกลลงมา สมมุติว่าเป็นชุดผ้า อย่างปีนี้ที่เป็นของ UK เขาเน้นเป็นชุดผ้า แต่ว่าชุดของเค้าดีเทลเยอะมาก เค้าใส่ดีเทลเยอะเยอะมาก อาจจะมากกว่าต้นฉบับ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ต้นฉบับเดิมเสีย เรียกว่าไม่เพี้ยนจากเดิม ก็ตรงนี้แหละครับ ลองปรับใช้ดู
ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับเซนส์ของแต่ละคนด้วยว่าเราทำมาก ทำน้อยแค่ไหน อย่างของผมเนี่ยตอนรอบไปซาอุฯ ผมก็ได้มีโอกาสได้คุยกับคณะกรรมการ แล้วก็ได้ถามว่าทีมไทยโชว์ของพวกเราเป็นยังไงบ้าง เค้าก็ได้บอกมา อย่างชุดผมอย่างเงี้ย ดีเทลเนี่ยบางทีอาจจะเยอะเกินไป มันอาจจะขึ้นอยู่เซนส์ของแต่ละคน ว่าเขาจะพรีเซนต์ออกมายังไง ผมอาจจะเยอะไปหน่อย มันเลยทำให้…อาจจะไม่ได้ดูสมจริง อ้า…เรียกว่าอะไรดี ดูตั้งใจไป
▐ Ryou : ไม่เหมือนรอยดาเมจน่ะครับ บางทีมันดูจงใจให้เกิดมากเกินไป
▐ Katto : ประมาณนั้น
▐ Ryou : บางทีมันอาจจะต้องยังมีส่วนที่ต้องคลีนอยู่บ้าง หรือว่าส่วนที่คลีนกับส่วนที่เป็นดาเมจน่ะครับ อาจจะต้องบาลานซ์
▐ Katto : ใช่ คือไม่จำเป็นต้องทำทั้งชุดก็ได้ แต่ทำให้ทำให้รู้ว่ามีแต่ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมด
▐ Ryou : คือทำให้เราได้ดูออกน่ะครับ ว่าแผลเนี้ยมันมีสตอรี่ของมัน ในตัวของมันเอง
▐ Katto : ตรงนี้ก็เลยได้ประสบการณ์ตรงนี้มา แต่ว่าตอนที่ผมทำผมก็มอง คือตอนที่ทำชุดลูฟี่อะ ผมมองว่า เรามองเป็นภาพ เกิดจากการกลิ้งขลุกขลัก ๆ มันก็คือการกลิ้งบนพื้นที่มีจุดดำ นู่น นั่น นี่ แต่ด้วยคณะกรรมการก็จะมองอีกแบบนึงว่าควรที่จะต้องเป็นในแบบนี้น่าจะดีกว่า ซึ่งพอเราได้ฟังแล้ว มันก็ดีจริง ๆ
แล้วก็เท่าที่รู้มา อย่างที่ 1 2 3 ที่เวิร์ลคอสที่ญี่ปุ่นน่ะครับ ที่หนึ่งผมไม่แน่ใจเรื่องอาชีพเค้า แต่ที่สองกับที่สามเนี่ย ที่สองลัทเวียเค้าจะเป็นคนที่ทำเกม บริษัทเกม ที่สามเนี่ยรู้สึกว่าจะเป็นช่างทำหนัง ช่างทำกระเป๋า รองเท้า ก็คือแต่ละทีมก็จะมีจุดเด่นมีความสามารถเฉพาะทาง
เค้าก็เลยดึงตรงนั้นออกมาได้ หรือแม้กระทั่งที่ซาอุฯ ที่สองทีมเม็กซิโก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเกี่ยวกับร่างกาย เกี่ยวกับพวกเต้น น่าจะเป็นแดนเซอร์ หรือ อย่างทีมญี่ปุ่น เขาเป็นเด็กฝึกงานนักพากย์เสียง ที่เราได้ยินก็คือเขาพากย์เสียงโดยเสียงของเขาเอง ก็คือเค้ามีการพยายามดึงศักยภาพของพวกเขาออกมาให้ได้มากที่สุด
▐ Ryou : อีกอย่างคือมาตรฐานเขาสูงด้วย ด้วยการแข่งขันหรืออะไรก็ตาม แต่คอมมิวนิตี้เขาเฟรนลี่นะฮะ แล้วก็โอเพ่นกัน อย่างบางประเทศเค้าก็บอกว่าจบงานเค้าก็ไปดื่ม ไปพูดคุยแลกความคิดเห็นกัน เราก็อยากให้ระดับการแข่งขันมันขึ้นไปจริง ๆ ที่เราอยู่ในปัจจุบันตอนนี้ มันไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะครับ มันดี แต่ว่าเรายังพูดไม่ได้ว่าเราเป็นตัวเก็งในสเตจของต่างประเทศ เราอาจจะต้องหาวิธีหลาย ๆ แบบในการที่จะทำให้ชุดหรืออุปกรณ์ให้มันสูงเท่านั้นมากจริง ๆ
▐ Katto : รวมถึงพวกแมททีเรียลต่าง ๆ อย่างบ้านเรายังคงเลือกที่จะใช้ผ้าหนังโฟมยางเป็นหลักอยู่ ซึ่งต่างประเทศเขาก็มองว่าผ้าหนังมันเอ้าท์ไปแล้ว อาจจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้
▐ Ryou : อาจจะมีอะไรที่มากกว่าการหุ้มหนัง ก็เป็นอะไรที่เราต้องมาทำการบ้านกันอีกเยอะ มันก็มีข้อดีที่ว่าเราสามารถทำโฟมยางให้มันออกมาในรูปแบบที่ ที่บางคนก็คาดไม่ถึงอะไรอย่างเงี้ยครับ หรือทำได้ทุกรูปทรง จริง ๆ เราก็เป็นหนึ่งในประเทศที่เราปั้นโฟมเป็นอะไรก็ได้ แต่ว่าบางทีในสายตาของบางคนเขายังรู้สึกว่าโฟมยางก็คือโฟมยาง ไม่ได้เป็นอะไรที่ว้าวสำหรับเค้า ถ้าเราใช้อะไรที่มันแปลกใหม่ขึ้นมาแล้ว แล้วมันคราฟแมนชิฟมากขึ้น มันก็อาจจะถูกใจเค้ามากขึ้นอย่างงี้ครับ
▐ Katto : หรือน่าจะใช้คำว่าดูน่าให้คะแนนมากขึ้น อย่างนี้มากกว่า ดูมีมูลค่ามากกว่า
▐ Ryou : อ้าใช่ ๆ…มีความใส่วิญญาณลงไปงานอะไรอย่างเงี้ย
▐ Cosplus : มีจิตวิญญาณของวัสดุ ?
▐ Ryou : ใช่ฮะ อะไรประมาณนั้น
▐ Katto : ดูความทุ่มเทมากกว่า อย่างสมมุติผมทำกระเป๋าขึ้นมาจากโฟมยางและผ้าหนัง กับอีกทีมที่ใช้ผ้าหนังเย็บขึ้นมาจริง ๆ เค้าก็จะมองว่าทีมที่ทำกระเป๋าหนังขึ้นมาจริง ดูมีมูลค่ามากกว่า ทุ่มเทมากกว่า ซึ่งถามว่าการใช้โฟมยางผ้าหนังก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร แต่ด้วยมุมมองของชิ้นงานออกมาแล้วมันก็ดูดีกว่า และก็อยากให้ทุกคนเฟรนลี่เวลาไปอะครับ พยายามเฟรนลี่ พยายามเอนจอยกับทุกสิ่งที่เจออะครับ
▐ Ryou : เอนจอยเท่าที่จะทำได้น่ะครับ
▐ Katto : บางคนอาจจะไม่ได้เก่งเรื่องภาษา แต่พวกผมเจอเพื่อนทีมญี่ปุ่นนี่แหละ เค้าพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง แต่เค้าเฟรนลี่มาก เค้าพยายามที่จะเข้าหาเพื่อนต่างชาติทุกคน เค้าก็ใช้กูเกิ้ลทรานสเลตนี่แหละ แล้วก็แปลกันมา ตรงนี้ที่ผมรู้สึกว่า ถ้าใครได้ไปก็อยากให้ทุกคนเมคเฟรนด์ แล้วก็เอนจอยกับทุกสิ่งทุกอย่างให้มากที่สุดครับ
▐ Ryou : เพราะหลาย ๆ โมเมนต์ที่สนุก ที่ไปประสบมาก็คือโมเมนต์ที่อยู่กับเพื่อน ๆ มากกว่าที่จะอยู่กับตัวเอง หลาย ๆ กิจกรรมมันมีเพื่อนมันดีกว่าเสมอ หรือคุณเสร็จกิจกรรมทั้งวันมาเหนื่อย ๆ แล้วคุณได้แช่สระว่ายน้ำหรือแช่ออนเซนแล้วคุยเล่นกับเพื่อน ๆ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ มีล้อกันบ้าง คุยหยอกกันบ้าง หรือคุณสามารถร้องคาราโอเกะบนรถกับเพื่อนของคุณได้ ก็เอนจอยทุกโมเมนต์ที่เราทำได้
▐ Katto : ผมมองเรื่องแข่งก็เป็นเรื่องของบนเวทีไป แต่ลงมาแล้วก็อยากให้ทุกคนไปเอนจอย ไม่จำเป็นต้องมองทุกคนเป็นศัตรู เพราะทุกคนก็ไปด้วยสิ่งที่ชอบแบบเดียวกันก็คือคอสเพลย์ ตรงนี้แหละที่ผมมองว่าไปเอนจอยเถอะมันสนุกจริง ๆ นะ ตอนแรกผมก็กลัวเรื่องภาษาเหมือนกัน แต่ก็กลายเป็นว่าคนก็เข้ามาคุย ก็อย่าไปปิดตัวเองกันครับ
▐ Ryou : แลัวก็คิดว่าทำสิ่งที่ตัวเองชอบดีกว่าครับ เพราะว่าการที่เราทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ มันจะได้ทั้งเรื่องแพชชั่นแล้วก็เรื่องของความสนุกสนานในระหว่างระยะเวลาทำครับ เป็นความภูมิใจส่วนตัวด้วย เพราะว่าเอาจริง ๆ ในระหว่างการทำมันเป็นเรื่องปกติออยู่แล้วที่เราจะมีเรื่องของความท้อ หรือเรื่องผิดพลาด เพราะงั้นถึงควรทำเรื่องที่เราเต็มที่กับมันได้ จะได้ซัพพอร์ตเราทางใจได้ด้วย แล้วก็สำหรับใครที่ลังเล จะลงดีมั้ย ก็คิดซะว่าลงเถอะครับ มันเป็นการเปิดโลกมากจริง ๆ จะได้เห็นผลงานใหม่ ๆ สิ่งใหม่ ๆ ของเพื่อน ๆ ต่างชาติ ได้เพื่อนกลับมา รวมถึงอาจจะได้ไฟในการลงประกวดใหม่ ๆ กลับมา หรือว่าได้กลับมาทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ประเทศของเราด้วย
▐ Katto : อย่างที่น้องแว่นบอกเลย ว่าเป็นเรื่องของการทำเรื่องที่ชอบก่อน เพราะถ้าเราไม่มีแพชชั่น ในช่วงแรกเราอาจจะรู้สึกว่าทำแล้วก็ทำได้ แต่พอสักพักนึงเราอาจจะรู้สึกว่ามันมีความฝืน ๆ น่ะครับ ผมคิดว่าตรงนี้ทุกคนน่าจะเคยสัมผัสถ้าเราทำในเรื่องที่เราไม่อยากจะทำ ผลงานมันจะออกมาไม่ดีแหละ แล้วก็เรื่องของพาร์ทเนอร์ เรื่องนี้ค่อนข้างที่จะสำคัญเลย เพราะว่าอย่างแรกเลยคือเราจะต้องอยู่กับพาร์ทเนอร์ของเรา ไม่ใช่แค่เดือนสองเดือนแน่ ๆ เพราะว่าเราจะต้องมีการเตรียมตัวล่วงหน้าเป็นปี ๆ ก็มี พูดง่าย ๆ ก็คือเราต้องใช้ชีวิตร่วมกันยาวนานพอสมควร แล้วมันไม่ใช่แค่ว่า พอหลังจากที่จบจากการประกวดแล้วอ่ะ เราก็ยังคงต้องเจอเค้าต่อไปเรื่อย ๆ ผมเลยมองว่าการเลือกพาร์ทเนอร์มันสำคัญ
มันมีอยู่แล้วแหละ การที่คนเราอยู่ด้วยกันมันก็มีเรื่องที่ไม่พอใจกัน มีเรื่องที่มีปากมีเสียงกัน แต่ถ้าเราได้เจอพาร์ทเนอร์ที่ดี เราสามารถที่จะเอ็นจอยกับเขา ร่วมสนุกไปกับอีเว้นท์ได้เพราะว่าผมก็เห็นหลายคู่ ๆ ที่…..จบงานแล้ว..ยังไม่ทันจะสิ้นสุด ยังไม่ทันจะกลับบ้านเลย ผมก็เคยเจอแบบ…ไม่คุยกันแล้ว มันก็มี แล้วก็เรื่องของการที่ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง อยากให้ทุกคนไม่เบลมใครกัน ไม่ว่าแบบ…ตรงเนี้ยแพ้เพราะแก อะไรแบบนี้ เพราะว่าในเมื่อเราทำทุกอย่างออกมาเสร็จสิ้นแล้ว ก็ไม่ควรที่จะต้องมานั่งหาขอติ ว่าตรงนี้มันไม่ได้เพราะอะไร เพราะยังไงมันก็ยังมีโอกาสข้างหน้าอยู่เรื่อย ๆ ถ้าเรายังอยากจะ keep ความสัมพันธ์แล้วก็พาร์ทเนอร์ที่ดีแบบนี้ ที่เหมาะสมกับเราแบบนี้ต่อไป
แล้วก็ในการเลือกของเนื้อเรื่อง ลองมองให้กว้างขึ้น อย่าง ณ ปัจจุบันมันไม่มีห้ามเรื่องจาก ชูเอฉะ จัมพ์ เค้าปลดแล้ว แล้วก็ในการวางบท วางสตอรี่ เรามองให้มันกว้างไปก่อน แล้วเดี๋ยวพอได้ซ้อมจริง ๆ ณ ตรงนั้นน่ะ มันจะบอกเองว่าเราควรจะต้องทำยังไงต่อไป ก็ในเมื่อมีโอกาสที่จะได้ลงอีกครั้งแล้ว ผมก็อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลง
25 | แล้วตัวเราเองยังมีอยากลงประกวดเวทีนี้อีกมั้ย ?
▐ Katto : ก็คุยกันไว้อาจจะมีอีกสองปี
▐ Ryou : ก็ยังคิดว่าจะยังไหวกันมั้ยนะ เพราะสองปีผมก็สามสิบ
▐ Katto : ผมก็สามห้าแล้วอะอีกสองปีอะ แต่ที่คุยกันคร่าว ๆ เราก็อาจจะไม่ใส่แอคติ้งแอคชั่นขนาดนั้น จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องแอ็คชั่นอย่างเดียว มันก็ไม่ได้ success เสมอไป สู้มาแบบกลมกล่อม
▐ Ryou : ไม่จำเป็นต้องแอคชั่นจ๋า
▐ Katto : เราอาจจะไปทางเวย์ที่ซอฟท์กว่านี้ ไปเพิ่มเติมอย่างอื่นแทนมากกว่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราก็คง “แว่น! เราต้องฟันดาบ” ก๊องแก๊ง ๆ ต้องแกร่ง ๆ ลุย ๆ ถ้าย้อนกลับ 4-5 ปีที่แล้ว เราก็เลือกที่จะใช้ร่างกายให้มากที่สุด แต่พอได้เจอกับประสบการณ์ครั้งนี้ ก็จะมองว่า ไม่จำเป็นนี่หว่า บางทีมันอาจจะมาให้ซอฟ์ แต่มากไปด้วยสิ่งอื่นเพราะการแสดงบนสเตจมันไม่ได้มีแค่แอ็คชั่นอย่างเดียว มันมีส่วนประกอบอื่น ๆ ด้วย
▐ Ryou : แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็แล้วแต่ความถนัด
▐ Katto : ใช่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละบุคคลด้วย
▐ Ryou : ถ้าเค้าทำได้มันก็เป็นจุดเด่นของเขา ในเรื่องของแอ็คชั่น บางคนชอบดราม่า บางคนก็ชอบในหลาย ๆ แนว
▐ Katto : อันนี้ถือว่าพูดในมุมมองของเราละกัน ในเวย์ของเราที่อาจจะทำในครั้งต่อไปครับ เราไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะไปตัดสินใครว่าควรทำแบบนี้ตามที่เราบอก แต่เราแค่บอกเฉย ๆ ว่าอาจจะมาในรูปแบบนี้ไหมอะไรอย่างนี้ ซึ่งอนาคตเราก็ไม่รู้ว่าเราจะเป็นยังไง อยู่ดี ๆ ผมอาจฟิตร่างกายกลับมาเต็มร้อย อ้ะ…การแสดงเหมือนเดิมก็ได้ครับ
▐ Ryou : อาจจะฟันดาบกันสองนาทีครี่งเหมือนเดิมก็ได้ ขึ้นอยู่กับเวลา โอกาส สภาพร่างกาย แล้วก็จังหวะเหมาะในตอนนั้นด้วย
▐ Katto : หรืออย่างปีนี้ที่เห็นได้ชัดอะ ทีมพี่ออมกับพี่อร ทีม resident evil ผมมองว่าเป็นทีมที่น่ากลัวสำหรับพวกเราเลยนะ เพราะเป็นสิ่งที่ใหม่มาก ๆ แล้วเขาก็เลือกที่จะนำเสนอออกมาได้ดีด้วย เค้าพรีเซ็นต์ออกมาได้ดีมาก ๆ ด้วย
▐ Ryou : ถ้าเราเห็นต่างประเทศก็มีหลายทีมนะครับ ที่เขาเลือกจะละครเพลงมาเล่าเนื้อเรื่องของเค้า ก็เป็นไอเดียที่ดีมาก ๆ ด้วย
▐ Katto : จากประสบการณ์ที่ไปเจอที่ซาอุฯ ก็พอจะรู้แล้วว่าจะทำยังไงให้ชุดจากที่ดูเรียบให้ดูมีมิติมากขึ้นได้ ก็ยังคิดอยู่เลยว่าการที่ไม่ได้รับรางวัลก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้เพราะผมมองว่ามันทำให้เราคิดว่าเราต้องพัฒนาอะไรต่อ แต่ถ้าได้รางวัลเราก็..อ้ะ ก็ได้รางวัลแล้ว
▐ Ryou : ใช่ครับ มันก็น่าจะพอแล้ว ผมก็คิดว่าถ้าผมได้รางวัลผมก็คงไม่ได้ประกวดต่อนะ ก็อาจจะไปลงอย่างอื่น แต่ว่าเวิร์ลคอสก็คงไม่ลงแล้ว
▐ Katto : หรืออาจจะมองว่าเราก็อาจจะไม่ได้รับคอมเมนท์อื่น ๆ เลยก็ได้
▐ Ryou : แต่พอเราไม่ได้ เราก็รู้สึกว่า ไม่ได้ครั้งหน้าต้องได้
▐ Katto : เราก็อาจจะมองว่าก็ได้รางวัลแล้ว ชุดก็สุดแล้วเท่านี้ นี่คือที่สุดแล้วอะไรแบบนี้ ซึ่งจริง ๆ มันก็ยังมีอย่างอื่นที่เราพัฒนาได้อีก
▐ Cosplus : ก็ดีใจที่เห็นทั้งคู่ยังมีกำลังใจค่ะ
▐ Ryou : ก็ยังมีไฟอยู่..แต่มีแรงมีอะไรมั้ย อีกเรื่่องนึง (หัวเราะ)
▐ Katto : (หัวเราะ)
▐ Ryou : เพราะเว้นไปปีนึงนี่ค่อนข้างนานอยู่เหมือนกันนะ (หมายถึงถูกห้ามประกวดในปีถัดไป)
▐ Katto : ใช่
▐ Ryou : รวม ๆ ก็เกือบสองปีเลย กว่าจะถึงประกวดครั้งหน้า แต่ข้อดีก็คือถ้าเราตัดสินใจได้ก่อนก็อาจจะเริ่มทำได้ตั้งแต่ตอนนี้
▐ Katto : มีเวลาเตรียมตัวนานกว่าคนอื่นเค้าอะไรเงี้ย
26 | มีใครที่อยากขอบคุณมั้ยคะ ?
▐ Ryou : ก็ขอบคุณพี่เก่งที่ฝ่าฟันมาด้วยกันตั้งแต่วันที่ตกลง วันที่เราเสนอเรื่องว่า “พี่! มาทำอันนี้กันไหม” อะไรเงี้ยครับ แล้วเค้าก็ตอบตกลง ขอบคุณพี่ ๆ หมู่บ้าน Village’s hope ที่ให้การสนับสนุน แนะนำว่าควรทำอันนี้ยังไงดี ก็ได้สอบถามปรึกษาหลาย ๆ เรื่อง แล้วก็ขอบคุณหลาย ๆ คนที่คอยสนับสนุนทางใจ หรือทางอะไรต่าง ๆ หรือที่คอยให้กำลังใจเรามาตั้งแต่ที่เราเริ่มทำมาจนถึงทุกวันนี้ครับ
▐ Katto : ขอบคุณน้องแว่นนะครับ ที่…อยู่กับลุงคนนี้ ต้องบอกว่าผมเองก็ไม่ได้เพอร์เฟคอะไรครับ ยิ่งตอนไปญี่ปุ่นด้วย ข้อผิดพลาดมันเยอะมาก ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน คือตั้งแต่ตอนที่อยู่ที่ไทย ผมก็ไม่ได้เป็นคนที่จะลืมอะไรเท่าไหร่ แต่พออยู่ที่ญี่ปุ่นนี่ลืมนู่นลืมนี่ยับ ๆ เลย แต่ว่าน้องแว่นก็ยังคง “ไม่เป็นไรพี่” เราก็พูดคุยกัน อยู่ด้วยกัน ก็ขอบคุณที่ลากพี่ไปด้วย จากคนที่ใกล้จะหมดไฟแล้ว ก็ร่วมสู้ด้วยกันมาตั้งครึ่งปีได้แล้วมั้ง จริง ๆ เราเริ่มลงมือทำตั้งแต่เดือนมกรา ที่น้องแว่นได้เริ่มทำ แล้วก็เริ่มพูดคุย มีการปรับปรุงกันอะไรกัน ก็ขอบคุณที่ยอมที่จะเอาชีวิตครึ่งปีมาไว้กับเรา
ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง แต่ก็ภูมิใจกับสิ่งที่ได้ทำออกมา รู้สึกว่าทำผลงานตรงนี้ออกมาแล้วว่า ไม่ใช่แค่เราที่ชอบ แต่เป็นคนดู เป็นแฟนวันพีชที่ชอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนต่างประเทศที่เขารู้ว่านี่ทีมไทย แล้วเขาเห็นโชว์ของเราจากทางยูทูปที่ทาง Props&Ops ลง เค้าก็เข้ามาบอกว่าชอบมาก เราก็ดีใจมาก ยิ่งตอนไปซาอุฯ เราก็ได้เจอกับเพื่อนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้วันพีซเหมือนกัน ทำให้รู้สึกว่า ไม่ว่าผลมันจะเป็นยังไง เราก็รู้สึกว่าเราโอเค เราภูมิใจมากกับโชว์ของเรา
แล้วก็ขอบคุณพี่ ๆ ทางหมู่บ้าน Village’s hope ทุกคนครับ พี่ ๆ เพื่อน ๆ ทุกคนคอยส่งเสริมแล้วก็คอยซัพพอร์ต คอยดูเรื่องเกลาบท แล้วก็คอยแนะนำในเรื่องของไฟ ถ้าไม่ได้ไม่ได้พี่ ๆ เค้า เราก็ไม่ได้ทำไฟออกมาได้ดีได้สวย คงไม่ได้ทำไฟออกมาได้อย่างที่คิด แล้วก็วิก พี่เค้าก็ได้แนะนำ ว่าลองใช้แบบนี้ดูสิ มีวัสดุนี้ที่มันโปร่งแสงพอจนไฟมันลอดออกมาได้ แล้วก็เรื่องของบท ซึ่งตอนแรกบทมันจะไม่ใช่แบบนี้ แต่ว่าพวกพี่ ๆ เขาบอกว่าให้ลองสลับตรงนี้ดูไหมอะไรอย่างเงี้ย เค้าก็ช่วยดูให้ แล้วก็เรื่องแนะนำการทำสี ของผมหมวกลูฟี่ พี่ ๆ ก็แนะให้ใช้สีพวกนี้ ๆ ผสมกันดู ทำแบนนี้นะ วิธีแบบนี้นะ ตรงนี้ก็ต้องขอบคุณมาก ๆ เลยครับ
รวมถึงเพื่อน ๆ ที่ถ้าเราจะไล่ชื่ออาจจะใช้เวลาตรงนี้อีกนาน (หัวเราะ) ก็ขอบคุณนะครับ ถ้าเราไม่ได้เพื่อน ๆ ที่มาช่วยในการทำเรื่องอื่น ๆ เรื่องจิปาถะ มันจะมีบางส่วนที่มันจะเป็นงานแมส ที่แบบ..เรียกว่าอะไร…มันใช้บุคลากร ใช้คนในการทำ เพื่อน ๆ เค้าก็เข้ามาช่วยทำตรงนี้ให้ แล้วก็ช่วยกันขนของด้วย ยิ่งถ้าเกิดว่าวันรอบที่ไทย ถ้าเราไม่ได้เพื่อนคนนี้ เราก็คงค่อนข้างที่จะลำบากเพราะว่าของมันค่อนข้างเยอะ เพื่อนคนนี้เค้าก็ยินดีที่จะมาขนของให้ ทั้งที่บ้านเค้าก็อยู่ไกล อยู่พระปะแดง เค้าก็มาขนของให้ที่งานด้วย ก็ขอบคุณมาก ๆ รวมถึงเพื่อนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง เรื่องที่แบบ..เดี๋ยวเราช่วยตรงนี้ให้นะ งานมันเป็นงานแมสเนอะ เดี๋ยวทำตรงนี้ให้ ช่วยกันทำได้ แล้วก็การแนะนำต่าง ๆ จากเพื่อน ๆ ที่อาจจะไม่ได้กล่าวถึงนะครับ ตรงนี้ก็ขอบคุณจริง ๆ ครับ
27 | ก็ขอขอบคุณทั้งสองคนที่ไปเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทยนะคะ อยากให้ทิ้งท้ายสักหน่อยค่ะ อาจจะเป็นช่องทางติดตาม หรือมีอะไรที่อยากเสริมก็ได้เลยค่ะ
▐ Ryou : ขอฝากตัวไว้ด้วยนะครับกับ Ryou Cosplay ครับ คิดว่ายังลงอีกแหละ ยังไงเราก็ยังอยากลงอีก เรายังมียังมีโปรเจคยังมีสิ่งที่เรายังอยากทำในเวทีของ WCS ครับผม เราอาจจะเจอกันได้อีกบ้างในบางที่ หรือว่าจะเป็นในงานอีเว้นท์ทั่วไปก็ได้ หลังจากนี้เราอยากที่จะพยายามพัฒนาผลงานคอสของเราเอง ทั้งส่วนที่ไม่ใช่การประกวด ที่เป็นการคอสเพลย์ทั่วไปด้วย ให้ไปถึงในระดับที่เราอยากจะเป็น อย่างที่เราเห็นมาในต่างประเทศครับผม ยังไงก็ต้องฝากตัวกับทุกคนด้วย แล้วก็ถ้าใครมีความสนใจเรื่องประกวดหรือว่าอยากสอบถาม อยากรู้เรื่องอะไรก็มาคุย มาทักทายกันได้ตลอดนะครับ เพราะว่าเราก็อยากให้ทุก ๆ คนพัฒนากันไปด้วยกัน เราก็ไม่ได้อยากจะกั๊กข้อมูลความรู้หรืออะไร ก็อยากจะให้แชร์ ๆ กันไป เผื่อว่าบางคนอาจจะมีไอเดียที่ดี หรือว่าความคิดเห็นที่ดีก็สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ ก็จะเป็นการพัฒนากันไปด้วยกันทุกคนครับผม
▐ Katto : ก็ขอฝากด้วยนะครับ ฝาก Katto Cosplay ด้วยนะครับ ตอนนี้เพจสามพันกว่าแล้ว ช่วยกดกันให้ถึงหมื่นทีนะครับ ขอร้องละครับ (หัวเราะ) ก็ยังไงเจอกันตามงาน เข้ามาพูดคุย เข้ามาทักทายกันได้ครับ ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัย ไม่ได้กัดใครครับผม (หัวเราะ) แล้วก็อย่างที่น้องแว่นบอกครับว่า เราอยากจะทำกันในเรื่องของ การทำชุด แล้วก็เรื่องของการแสดง เราก็อยากจะให้ประเทศไทยไปด้วยกัน เพราะว่าที่ต่างประเทศอะเค้ารวมกันเป็นคอมมูเดียวกันเลย เค้ามีอะไรเค้าก็แชร์กัน อย่างประเทศอินโดนีเซีย เราก็รู้มาว่าเค้ามีคอมมูที่ใหญ่มาก ๆ เพราะงั้นในการทำชุดของเค้าก็จะอย่างที่เราเห็นว่า ชุดเค้าโหดมาก ชุดเค้าดุจริง ๆ เค้าทำออกมาชุดกล้ามมีแบบ…ทำกันแทบทุกบ้านอะไรอย่างเนี้ย เค้ามีการแชร์กันว่าใช้วัสดุอะไร ใช้อย่างนี้ ๆ นะ ใช้วัสดุนี้ทำสิ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของแต่ละคน เพราะว่าจะให้มาทำทั้งหมดเลยมันก็ไม่ใช่เนอะ ก็ขึ้นอยู่กับการขวนขวาย การเรียนรู้ว่ามันจะต้องทำยังไง ขึ้นอยู่กับเทคนิคแต่ละคนเป็นยังไงด้วยครับ
ก็มีอะไร ก็เข้ามาสอบถาม พูดคุยกันได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นงานอีเว้นท์ งานกรรมการอะไร ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนกลัวผม (หัวเราะ) อย่างไปงานล่าสุดมา เค้าก็บอกกรรมการทำไมดูน่ากลัวจัง ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร หรืออาจจะเป็นวันนั้น ผมเพิ่งลงมาจากซาอุฯด้วยมั้ง แล้วมันก็น่าจะเจ็ทแล็ก ก็ยังเพลีย ๆ อยู่ หน้าอาจจะไม่ได้เฟรนด์ลี่เท่าไหร่ ก็ยังไงก็พูดคุยกันได้ครับ
▐ Ryou : ใช่ครับ ประทับใจคอมมูหลาย ๆ ประเทศมาก มีเทคนิคใหม่ ๆ แบบใหม่ ๆ เค้าก็จะแชร์ข้อมูลกัน การซัพพอร์ตจากที่อื่นก็สำคัญเหมือนกัน ก็อาจจะเป็นเรื่องของหลาย ๆ ภาคส่วน ถ้าเราร่วมมือกัน ผลักดันคอมมิวนิตี้ไปพร้อม ๆ กัน ทั้งเลเยอร์ ทั้งออแกไนซ์ อะไรหลาย ๆ อย่างด้วยครับ มันก็พูดไม่ได้ว่ามันทำได้แค่ที่ตัวเราอย่างเดียว อย่างถ้ามีการแข่งขันมากขึ้น มันก็จะมีการยกระดับกับขึ้นมาเองว่าถ้าเราอยากชนะเราต้องทำอะไรบ้าง สมมติคุณไปเป็นตัวแทน คุณไม่ได้แค่ไปแต่กลับมาแล้วคุณได้อะไรจากที่นี่บ้าง ทุกคนที่ไปก็เต็มที่ครับ ได้เป็นโรลโมเดลให้คนอื่นเห็นด้วย ว่าเนี่ยไปแล้วเขาได้อะไรกลับมา การที่เป็นตัวแทนมันดีนะ คนก็จะยิ่งแบบ อยากที่จะเป็น อยากที่จะไปมากขึ้นครับ
▐ Katto : อีกอย่างหนึ่งคือคุณก็ไม่ได้ไปในนามของทีมคุณ คุณไปในนามของประเทศ เราก็เหมือนไปในหน้าตาของประเทศ เราก็ไม่อยากทำให้ขายหน้าครับ
Credit : World Cosplay Summit
เป็นอย่างไรบ้างคะกับบทสัมภาษณ์ครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณคุณ Katto และ Ryou ที่สละเวลาการให้สัมภาษณ์นะคะ เป็นบทสัมภาษณ์ที่ยาวสักหน่อย แต่ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวและระสบการณ์ดี ๆ ที่ทั้งสองแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน ก็หวังว่าเพื่อน ๆ จะชอบบทสัมภาษณ์นี้นะคะ
ทิ้งท้ายขอโพสต์คลิปวิดิโอการประกวดในรอบคัดเลือกตัวแทนประเทศไทย และการประกวดที่ประเทศญี่ปุ่นในตรงนี้ค่ะ
และใน Cosplus นี้ยังมีบทสัมภาษณ์ตัวแทน World Cosplay Summit ในอดีตอีกด้วย สามารถไปอ่านกันได้ใน Tag WCSThaiRepresent ได้นะคะ
Cosplus by Props&Ops
Interview by Xora
Special Thanks & Info
➤ Katto
Facebook Page : https://www.facebook.com/KattoCosplay
Facebook : https://www.facebook.com/imbuff.kutto
➤ Ryou
Facebook Page : https://www.facebook.com/ryoucosplayer
Facebook : https://www.facebook.com/kritboons3
➤ World Cosplay Summit
⋅ Website : https://www.worldcosplaysummit.jp
➤ G-Yu Creative
⋅ Website : https://www.gyucreative.com/
➤ World Cosplay Summit Thailand
⋅ Facebook : https://www.facebook.com/worldcosplaysummitTH/
➤ Gallery – World Cosplay Summit Thailand 202 รอบคัดเลือก
➤ Gallery – World Cosplay Summit Thailand 2023 รอบชิงชนะเลิศ
➤ Thai World Cosplay Summit ใน CosplayWiki
Special Thanks Photos Credit
➤ World Cosplay Summit Facebook
➤ Worldcosplaysummit.jp